กรมชลประทาน

เขื่อนเจ้าพระยาปรับลดการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาทยอยลดลงแล้วหลายจุด กรมชลประทาน เร่งสำรวจติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำพร้อมจัดสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องจักร เครื่องมือ เข้าไปร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฟื้นฟูพื้นที่ต่างๆหลังน้ำลด ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วตามนโยบายของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) 

สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ระดับน้ำในแม่น้ำมูลเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลงในหลายพื้นที่ กรมชลประทานจับมือหน่วยงานต่างๆ เข้าไปช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ตามนโนบายของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

สถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน (27 ตุลาคม 2565) ปริมาณน้ำในพื้นที่ตอนบน แม่น้ำปิงและแม่น้ำน่านลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปริมาณฝนในพื้นที่ตอนบนลดลงเช่นกัน ส่งผลให้แม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 2,316 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มลดลงกรมชลประทาน ได้ปรับลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 

กรมชลประทานทยอยปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา พร้อมวางแผนติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง คาด 2-3 วัน ระดับน้ำจะต่ำกว่า 2,700 ลบ.ม./วินาที

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (13 ต.ค.65) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 63,321  ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 83 ของความจุอ่างฯ ยังสามารถรับน้ำได้อีก 13,783  ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 20,094  ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ81 ของความจุอ่างฯ สามารถรับน้ำได้อีก 4,882  ล้าน ลบ.ม.