รมช. ไชยา เปิดโครงการกระทรวงเกษตรฯ พบประชาชน ลงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยกว่า 1,000 ถุง ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ
นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมและการเกษตร ณ ตำบลบ้านค่าย อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ และตำบลละหาน อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ว่า ภายใต้นโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ของนายกรัฐมนตรี (นายเศรษฐา ทวีสิน) จะช่วยให้รายได้ของเกษตรกรเพิ่มมากขึ้น โดยให้เกษตรกรมุ่งผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพตรงตามกระแสโลก เช่น การทำเกษตรอินทรีย์ การปลูกพืชออร์แกนิก เพื่อจำหน่ายในพื้นที่ห้างสรรพสินค้า หรือส่งออกไปจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งการครองพื้นที่ตลาดเพียง 5% อาจสร้างรายได้กว่า 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้แนะนำให้เกษตรกรใช้นวัตกรรมในการทำการเกษตร เพื่อให้มีผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ โดยสามารถขอรับคำแนะนำได้ที่สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดชัยภูมิ
รมช. ไชยา กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงเกษตรฯ จะเร่งรัดแก้ไขปัญหาอุทกภัยซ้ำซาก โดยมีมุมมองจากการชดเชยรายได้ให้เกษตรกรในทุกปี ควรเปลี่ยนเป็นลงทุนแก้ไขปัญหาอุทกภัยระยะยาว เพื่อให้เกษตรกรไม่ขาดรายได้ในช่วงเกิดน้ำท่วมและภัยแล้ง รวมถึงรัฐบาลได้ประกาศพักหนี้เกษตรกร 3 ปี ปลอดดอกเบี้ย ปลอดเงินต้น เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้มุ่งผลิตพืชผลเกษตรที่มีคุณภาพ ลดความกังวลปัญหาหนี้สิน และมีรายได้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้น ได้แก่ 1) ตรวจสอบพื้นที่และรับรองความเสียหายระดับหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอ 2) ติดตาม เฝ้าระวังการเลี้ยงจระเข้ในพื้นที่เสี่ยงเกิดน้ำท่วม พร้อมจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำ อวน กระชัง เพื่อบรรเทาความเสียหาย 3) สนับสนุนเวชภัณฑ์จากกองทุนยาสัตว์ประจำกลุ่มเพื่อป้องกันและรักษาโรค 4) ช่วยเกษตรกรอพยพสัตว์สู่ที่ปลอดภัย ทั้งนี้ รมช.ไชยา ได้มอบปัจจัยการผลิตให้เกษตรกร และถุงยังชีพกว่า 1,000 ถุง ให้กับพี่น้องเกษตรกรที่อยู่ ณ วัดวังก้านเหลือง ตำบลบ้านค่าย อำเภอเมืองจังหวัดชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ และบ้านท่าศาลา ตำบลละหาน อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนผู้ประสบอุทกภัย และเยี่ยมชมคูหาส่วนราชการอีกด้วย
“กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมปศุสัตว์ ได้ดำเนินการปราบปรามสินค้าเกษตรเถื่อน โดยเฉพาะเนื้อเถื่อนทุกชนิดอย่างจริงจัง เพื่อทำให้กลไกตลาด เกษตรกรรายย่อย กลุ่มผู้เลี้ยงหมู วัว ควาย สามารถจำหน่ายผลผลิตให้เกิดกำไร มีรายได้เพิ่ม และผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อเนื้อที่มีคุณภาพ จึงขอให้พี่น้องประชาชนและพี่น้องเกษตรกรแจ้งเบาะแสสินค้าเกษตรเถื่อน เพื่อปกป้องระบบเศรษฐกิจ และรักษากลไกตลาดที่จะทำให้การค้าภายในประเทศเติบโตยิ่งขึ้น” นายไชยา กล่าว
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด (ข้อมูล ณ วันที่ 12 ต.ค. 66) จังหวัดชัยภูมิ มีพื้นที่ประสบภัยใน 9 อำเภอ 53 ตำบล 507 หมู่บ้าน 27,626 ครัวเรือน ประกอบด้วย อ.เมืองชัยภูมิ อ.บ้านเขว้า อ.คอนสวรรค์ อ.หนองบัวแดง อ.จัตุรัส อ.หนองบัวระเหว อ.คอนสาร อ.ภักดีชุมพล และ อ.เนินสง่า พื้นที่เพาะปลูกกว่า 800,000 ไร่ พื้นที่การเกษตรได้รับอุทกภัย ได้แก่ อ้อย มันสำปะหลัง นาข้าว พืชผักสวนครัว ประมาณ 341,337 ไร่ คาดว่ามีพื้นที่เสียหาย 268,700 ไร่ วงเงินให้ความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ความเสียหายกว่า 468,605,838 บาท