การจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร ผู้ยากไร้ หรือสถาบันเกษตรกร พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน นับเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)ตามนโยบายของรัฐบาลในการลดความเหลื่อมล้ำด้านที่ดินทำกิน เพื่อให้ ส.ป.ก. สามารถนำที่ดินของรัฐไปดำเนินการจัดให้แก่ผู้ไร้ที่ดินทำกินจำนวนมาก ซึ่งขึ้นทะเบียนไว้เป็นระยะเวลานานตามนโยบายจัดที่ทำกินให้ชุมชนของรัฐบาลได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มศักยภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด
ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 48 ปีที่ผ่านมา ส.ป.ก. มุ่งมั่นดำเนินงานตามเจตนารมณ์ของการปฏิรูปที่ดินโดยสามารถจัดที่ดินทำกินให้เกษตรกรกว่า 2.9 ล้านราย ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 36 ล้านไร่ ซึ่งปัจจุบัน ส.ป.ก. ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลผู้เสียชีวิตของเกษตรกรผู้ได้รับการจัดที่ดินกับฐานข้อมูลของกรมการปกครอง พบว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรผู้ได้รับการจัดให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินเสียชีวิตทั้งสิ้น 205,930 ราย และ ส.ป.ก. ได้แจ้งให้ทายาทมาดำเนินการยื่นคำขอจัดที่ดินแทนที่ตามระเบียบฯ แล้ว จำนวน 18,542 ราย คิดเป็นเนื้อที่ 349,561 ไร่ ในปี พ.ศ. 2564 ส.ป.ก. ได้แก้ไข/ปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกและจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร การโอนหรือตกทอดทางมรดกสิทธิการเช่าหรือเช่าซื้อ และการจัดการทรัพย์สินและหนี้สินของเกษตรกรผู้ได้รับที่ดิน พ.ศ. 2564 ขึ้น และมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 โดยกำหนดให้ทายาทของเกษตรกรผู้ได้รับการจัดที่ดินเสียชีวิตมายื่นคำขอรับมรดกสิทธิฯ ตามระเบียบข้อ 22 และ 23 หรือมาขอรับการจัดที่ดินแทนที่ผู้เสียชีวิตตามข้อ 30 และข้อ 31 ภายในระยะเวลา 1 ปี เพื่อให้ทายาทเกษตรกรได้รับการจัดที่ดินตามระเบียบของ ส.ป.ก. อีกทั้งเปิดโอกาสให้เกษตรกรที่ประสงค์จะทำเกษตรกรรมแต่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเองได้รับความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น และสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตในที่ดินของตนอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม ด้วยระเบียบดังกล่าวเพิ่งมีผลคับใช้ จึงมีการกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลโดยอนุโลมว่า สำหรับเกษตรกรผู้ได้รับการจัดที่ดินซึ่งเสียชีวิตก่อนวันที่ระเบียบนี้มีผลบังคับใช้ และทายาทยังไม่ได้มายื่นคำขอภายใน 1 ปี ตามที่ระเบียบกำหนด ให้เริ่มนับวันตั้งแต่วันที่ระเบียบนี้มีผลบังคับใช้และขยายวันไปอีกไม่เกิน 2 ปี จะต้องมายื่นคำขอรับการตกทอดทางมรดกสิทธิ/ขอรับการจัดที่ดินแทนที่ พร้อมทั้งต้องแสดงเหตุผลอันสมควรได้รับการจัดที่ดิน ภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2566 นี้ หากพ้นระยะเวลาที่กำหนด ส.ป.ก. จะประกาศเป็นที่ดินแปลงว่าง และจัดให้เกษตรกรหรือผู้ประสงค์จะทำเกษตรกรรมรายอื่นตามระเบียบฯ ต่อไป
ทั้งนี้ ส.ป.ก. ได้ทำหนังสือเร่งให้ทายาทของเกษตรกรที่ผู้ได้รับการจัดที่ดินดังกล่าว เข้ามายื่นคำขอรับมรดกสิทธิ/ขอรับการจัดที่ดินแทนที่ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 15 ก.ค.นี้ 2 ช่องทาง คือ ส.ป.ก.จังหวัดทั่วประเทศ ในวันเวลาราชการ หรือยื่นคำขอผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ https://servicecenter.alro.go.th/ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลขสายด่วน ส.ป.ก. 1764 หรือหมายเลข 0-2282-9004