ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) มอบหมายให้ นายเอกพงศ์ น้อยสร้าง รองเลขาธิการ ส.ป.ก. พร้อม นายสุรชัย ยุทธชนะ รองเลขาธิการ ส.ป.ก., หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม, ผู้ตรวจราชการกรม, ผู้บริหาร ส.ป.ก.ส่วนกลาง, ปฏิรูปที่ดินจังหวัดภาคกลาง ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงาน “ต้นแบบความสำเร็จในการส่งเสริมงานพัฒนาเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินของ ส.ป.ก.ระยอง” โดยมี นางวิไลกัลยา สาริพันธุ์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดระยอง กล่าวให้การต้อนรับ ณ ศูนย์เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ในเขตปฏิรูปที่ดิน หมู่ 6 ตำบลหนองไร่ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
นายเอกพงศ์ เปิดเผยว่า สำหรับการลงพื้นที่วันนี้ เป็นการติดตามผลการดำเนินงานต้นแบบความสำเร็จในการส่งเสริมงานพัฒนาเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินของ ส.ป.ก.ระยอง โดยที่ผ่านมา ส.ป.ก. ได้ดำเนินการจัดที่ดิน จำนวน 30 ไร่ ให้กับ “นายลมัย สนวัตร์” เกษตรกรผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมจนประสบผลสำเร็จ ทั้งนี้ ได้มีการส่งเสริมปัจจัยการผลิต และพัฒนาเกษตรกรในด้านต่าง ๆ เช่น การส่งเสริมการทำเกษตรแบบผสมผสาน การผลิตภายใต้ระบบเกษตรอินทรีย์ การปลูกพืชสมุนไพร การส่งเสริมการผลิตภายใต้ระบบแปลงใหญ่ เป็นต้น
นางวิไลกัลยา กล่าวว่า “นายลมัย สนวัตร์” ได้รับแต่งตั้งให้เป็นปราชญ์เกษตรของแผ่นดินระดับจังหวัด จังหวัดระยอง ประจำปี 2566 สาขาผู้นำชุมชนและเครือข่าย เดิมเกษตรกรประสบปัญหาการทำเกษตรเชิงเดี่ยวและปัญหารายได้ไม่เพียงพอ ต่อมาปี พ.ศ. 2558 หันมาทำเกษตรผสมผสานตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง “ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก” โดยมีการทำกิจกรรมภายในศูนย์การเรียนรู้ ได้แก่ ปลูกพืชแบบสมผสาน เช่น ละมุด มังคุด เงาะ ทุเรียน กล้วยป่า ยางพารา ผักกูด กระวาน ชะอม มะนาว ฯลฯ และการทำโรงปุ๋ยหมักเติมอากาศเพื่อผลิตปุ๋ยใช้เอง เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการผลิต
อีกทั้งยังมีห้องอบสมุนไพร ซึ่งใช้วัตถุดิบสมุนไพรในแปลงและในชุมชน เป็นการสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ชุมชน มีการถ่ายทอดให้ความรู้ด้านต่าง ๆ จนในปัจจุบัน ได้ตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ในเขตปฏิรูปที่ดินและศูนย์การเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ บ้านเขาคลองซอง หมู่ 6 ต.หนองไร่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง
นายเอกพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ตามกิจกรรมภายในวันนี้ ได้มีการเยี่ยมชมสวนเกษตรกร รวมทั้งการออกร้านจำหน่ายผลผลิตจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน ทั้งนี้ ยังได้ให้คำแนะนำแนวทางการต่อยอดในอนาคต เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน
“ผมเองมีความชื่นใจมาก เห็นเกษตรกรมีความตั้งใจ และประสบผลสำเร็จ โดยการทำเกษตรแบบอินทรีย์ ซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพเกษตรกร และยังคำนึงถึงสุขภาพของคนรอบข้าง คือกลุ่มผู้บริโภค และผมพร้อมจะผลักดันและส่งเสริมกลุ่มเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่แห่งนี้ ให้สามารถเติบโตในตลาดระดับบน เพื่อยกระดับสินค้า เจาะกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมมากขึ้นต่อไป” นายเอกพงศ์ กล่าว
ด้านนายลมัย สนวัตร์ กล่าวว่า ก่อนเคยทำการเกษตรแบบเชิงเดี่ยว แต่ประสบปัญหารายได้ไม่เพียงพอแก่ค่าใช้จ่าย ต่อมาได้หันมาทำเกษตรผสมผสาน ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เริ่มดำเนินการอย่างต่อเนื่องปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก เช่น ปลูกละมุด มังคุด เงาะ ทุเรียน ยางพารา เป็นต้น สามารถลดต้นทุนในการผลิตโดยการทำปุ๋ยใช้เอง การใช้กับดักแมลงวันทอง ทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและปลอดภัย
ขณะเดียวกัน ส.ป.ก. ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานต่าง ๆ ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สนับสนุนการทำโรงผลิตปุ๋ยแบบเติมอากาศ การขุดบ่อน้ำ และฝึกอบรมความรู้ด้านต่าง ๆ จนในปัจจุบันได้ตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อให้ความรู้แก่นักเรียน และประชาชนทั่วไป ทั้งมาศึกษาดูงาน และเข้าค่ายฝึกอบรม ซึ่งมีการศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรีย์ เช่น การผลิตปุ๋ยหมักแบบเติมอากาศ การเผาถ่านโดยใช้น้ำส้มควันไม้ในการไล่แมลง การผลิตถ่านไบโอชาร์ การทำกับดักแมลงวันทอง และการขยายพันธุ์พืช เป็นต้น