กรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 15 ร่วมกับ ศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปิดให้เยี่ยมชมพระตำหนักและสักการะพระนารายณ์ทรงสุบรรณ เป็นครั้งแรก พร้อมจัดกิจกรรม “ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรมท้องถิ่น” ชูอัตลักษณ์วิถีชีวิตชาวลุ่มน้ำปากพนัง กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว กระจายรายได้สู่ชุมชนและท้องถิ่น
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กิจกรรม “ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรมท้องถิ่น” เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตลุ่มน้ำปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยได้เปิดให้ประชาชนได้เข้าไปเยี่ยมชมพระตำหนักและสักการะพระนารายณ์ทรงสุบรรณ เป็นครั้งแรก พร้อมชูอัตลักษณ์วิถีชีวิตชาวลุ่มน้ำปากพนังที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ตลอดจนการพัฒนาต่อยอดผลผลิตทางการเกษตร มีการถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะจากการส่งเสริมสนับสนุนภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมไปถึงการจัดแสดงผลการดำเนินงานของโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งจัดขึ้นบริเวณประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2566) ตั้งแต่เวลา 08.30-19.00 น.
ด้านนายก่อพงศ์ เจ้ยแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 15 กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดกิจกรรมภายในงาน นอกจากจะได้เข้าไปเยี่ยมชมพระตำหนักและสักการะพระนารายณ์ทรงสุบรรณแล้ว ยังจะได้ดื่มด่ำกับการชมทัศนียภาพของประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิที่งดงาม มีการจำหน่ายสินค้าจากเกษตรกรศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริและศูนย์การเรียนรู้และท่องเที่ยวชุมชนเชิงเกษตรวิถีชีวิตชาวลุ่มน้ำปากพนัง เพื่อสร้างรายได้สู่ชุมชนและท้องถิ่น รวมทั้งรับชมนิทรรศการย้อนอดีตลุ่มน้ำปากพนัง ต้นกำเนิดโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตลอดจนสัมผัสวิถีเกษตรทฤษฎีใหม่ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากนี้ ยังเปิดให้ชมและเชียร์กิจกรรมการแข่งขันเซปักตะกร้อชายหาดมาราธอนและวอลเล่ย์บอลชายหาด พร้อมเปิดโอกาสพิเศษให้คู่รักได้จดทะเบียนสมรสเนื่องในโอกาสวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ หรือวันวาเลนไทน์ เพื่อบันทึกเรื่องราวของความรักท่ามกลางบรรยากาศริมน้ำอีกด้วย ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ที่ต้องการพัฒนาสถานที่แห่งนี้ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตของพี่น้องชาวปากพนังได้อย่างยั่งยืน