นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (20 ธันวาคม 2565) เวลา 15.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ จังหวัดสงขลา และจังหวัดพัทลุง โดยเมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานหาดใหญ่ อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา นายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ในจังหวัดสงขลา ณ ห้องรับรองกองบิน 56 โดยมี พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา หัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา ล่าสุดพบว่า ยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอต่าง ๆ จนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย จำนวน 14 อำเภอ (จากทั้งหมด 16 อำเภอ) คือ อ.เมืองสงขลา อ.รัตภูมิ อ.ควนเนียง อ.หาดใหญ่ อ.นาหม่อม อ.จะนะ อ.บางกล่ำ อ.ระโนด อ.คลองหอยโข่ง อ.สิงหนคร อ.สะบ้าย้อย อ.สทิงพระ อ.เทพา และ อ.กระแสสินธุ์ รวม 100 ตำบล 51 ชุมชน 566 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 46,529 ครัวเรือน จำนวน 126,178 คน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้นแล้ว รวมทั้งจัดตั้งศูนย์อพยพสำหรับผู้ที่ไม่สามารถอาศัยในครัวเรือนได้ ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำท่วมและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันในบางพื้นที่ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ ทางอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการ จะเร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นเพื่อดำเนินการให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป
ทั้งนี้ จังหวัดสงขลา และจังหวัดพัทลุงเป็นอีกพื้นที่ใน 9 จังหวัดภาคใต้ที่ประสบสถานการณ์อุทกภัยที่ได้รับผลกระทบจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 18 – 20 ธ.ค.65 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ และลมกระโชกแรงในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวม 66 อำเภอ 271 ตำบล 1,425 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 64,626 ครัวเรือน ขณะที่พัทลุง น้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อ.ตะโหมด อ.ศรีนครินทร์ อ.กงหรา อ.เขาชัยสน อ.ปากพะยูน อ.ป่าบอน อ.บางแก้ว อ.เมืองพัทลุง และ อ.ควนขนุน รวม 29 ตำบล 178 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,400 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์น้ำเริ่มลดลงแล้ว
ต่อมา เวลา 16.00 น. ณ วัดเขาตกน้ำ ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ พบปะเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยจากสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ในจังหวัดสงขลา โดยนางสาววิไลลักษณ์ เรืองผล นายอำเภอรัตภูมิ ได้รายงานสถานการณ์ในพื้นที่ว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.รัตภูมิ ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมในพื้นที่มี 5 ตำบล 63 หมู่บ้านมีประชาชนได้รับความเดือดร้อน จำนวน 5,445 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย จำนวน 1,080 ไร่
ทั้งนี้ได้มีการบูรณาการหน่วยงานทั้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จิตอาสา เร่งเข้าคลี่คลายสถานการณ์ ซึ่งได้มีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ รวมทั้งดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนโดยเฉพาะด้านการดำรงชีพ ได้การจัดตั้งโรงครัวพระราชทานประกอบเลี้ยงผู้ประสบภัย การแจกจ่ายถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนพร้อมทั้งอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนกำลังจากกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 5 ค่ายเสนาณรงค์ จัดกำลังพลและรถบรรทุกเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำไหลบริเวณหน้าวัดเขาตกน้ำ พร้อมกล่าวพบปะทักทายให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลห่วงใยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นทุกพื้นที่ ทั้งนี้ ได้ติดตามการรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา และจะเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนทุกพื้นที่โดยเร็วที่สุด รัฐบาลมีแผนงานโครงการต่าง ๆ ที่จะเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยจะดูแลจัดสรรโครงการต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการร่วมกัน รวมทั้งเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อลดและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจุดที่มีความเสียหายที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซากจะต้องแก้ไขปัญหาทันที
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประชาชนคนไทยทุกคนต้องมีความสามัคคี รักกัน ไม่แบ่งแยก มีความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ขอให้ทุกคนร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน รัฐบาลพยายามทำงานอย่างเต็มที่ ย้ำว่ารัฐบาลจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังและจะทำเพื่อประชาชนคนไทยทุกคน พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนร่วมกันสวดมนต์ขอให้ พลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของกระทรวงสาธารณสุข จุดแจกข้าวให้กับประชาชน และโรงครัวพระราชทาน ก่อนเดินทางไปให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัย ณ ศูนย์อพยพเทศบาลตำบลควนเนียง อ.ควนเนียง จ.สงขลา ซึ่งที่ศูนย์อพยพเทศบาลตำบลควนเนียง นายกรัฐมนตรีกล่าวกับประชาชนว่า วันนี้ได้นำคณะรัฐมนตรีมาเยี่ยมประชาชนด้วยความคิดถึงและห่วงใย ถึงแม้ตนไม่ใช่คนใต้ แต่คนใต้น่ารัก เราจะไม่แบ่งแยกกัน ไม่สร้างความขัดแย้ง มีความรัก ความสามัคคี สิ่งเดียวที่มีให้กัน พร้อมรับฟังข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย ถึงแม้ว่าใครไม่ชอบนายกฯ ก็ตาม แต่นายกฯ รักทุกคน ไม่ว่าภาคไหน เราคือคนไทยด้วยกัน มีรอยยิ้ม มี soft power พลังแห่งรอยยิ้มของคนไทย วันนี้มาให้กำลังใจคนใต้ รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในทุกจังหวัด พร้อมทั้งได้รับทราบรายงานถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ซึ่งขณะนี้ยังมีฝนตกหนักในทุกพื้นที่ โดยรัฐบาลจะเร่งแก้ไขปัญหาและเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่
อย่างไรก็ตามขอให้ทุกคนต้องมีการปรับตัวให้ทัน รองรับกับความเปลี่ยนแปลงและสถานการณ์โลกเพื่อเตรียมความพร้อมก้าวสู่ศตวรรษใหม่ พร้อมฝากความหวังอนาคตของลูกหลานไทยขอให้มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงสถาบันครอบครัวที่ต้องรักกัน
ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ต่างขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่เดินทางมาตรวจติดตามสถานการณ์น้ำและเยี่ยมเยียนให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ด้วยความห่วงใย โดยประชาชนก็พร้อมสนับสนุนและให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในการทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนต่อไป ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับประชาชนว่า “รักจริงก็อย่าทิ้งนายกฯ ก็แล้วกัน” ซึ่งประชาชนต่างส่งเสียงร้องบอกว่า “ไม่ทิ้งนายกฯ หรอก” โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณประชาชนทุกคน และย้ำให้ประชาชนดูแลตนเองให้ปลอดภัย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมประกอบอาหารพร้อมรับประทานเมนูผัดกะเพราไก่และไข่เจียวสำหรับมอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยในศูนย์อพยพเทศบาลตำบลควนเนียงด้วย