วันที่ 18 ธ.ค. 65 เวลา 16.00 ปภ.รายงานเกิดน้ำท่วมและวาตภัยในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช ยะลา สงขลา นราธิวาส พัทลุง อำนาจเจริญ จันทบุรี และปัตตานี รวม 33 อำเภอ 84 ตำบล 305 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 15,696 ครัวเรือน ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานจังหวัดเร่งสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือผู้ประสบภัย
– กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานสถานการณ์มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ในระหว่างวันที่ 17-20 ธ.ค.65 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ และลมกระโชกแรง แยกเป็น
–สถานการณ์อุทกภัย เกิดสถานการณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัดได้แก่ นครศรีธรรมราช สงขลา นราธิวาส ยะลา และพัทลุง รวม 23 อำเภอ 68 ตำบล 285 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 15,619 ครัวเรือน ดังนี้
1.นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอปากพนัง รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 90
ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
2. ยะลา น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอบันนังสตา รวม 5 ตำบล 8 หมู่บ้าน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
3. สงขลา น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงลา อำเภอรัตภูมิ อำเภอควนเนียง อำเภอหาดใหญ่ อำเภอนาหม่อม และอำเภอจะนะ รวม 9 ตำบล 28 หมู่บ้าน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
4. นราธิวาส น้ำท่วมในพื้นที่ 12 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสุคิริน อำเภอศรีสาคร อำเภอรือเสาะ อำเภอระแงะ อำเภอจะแนะ อำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอสุไหงปาดี อำเภอบาเจาะ อำเภอแว้ง อำเภอสุไหงโก-ลก และอำเภอตากใบ รวม 46 ตำบล 231 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 15,529 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
5. พัทลุง น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอตะโหมด อำเภอศรีนครินทร์ และอำเภอกงหรา รวม 6 ตำบล 16 หมู่บ้าน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
–สถานการณ์วาตภัย เกิดสถานการณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ อำนาจเจริญ จันทบุรี ปัตตานี นครศรีธรรมราช และสงขลา รวม 11 อำเภอ 16 ตำบล 20 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 77 ครัวเรือน ดังนี้
1. อำนาจเจริญ เกิดวาตภัยพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชานุมาน อำเภอเมืองอำนาจเจริญ และอำเภอปทุม
ราชวงศา รวม 4 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4 ครัวเรือน
2. จันทบุรี เกิดวาตภัยพื้นที่อำเภอแหลมสิงห์ รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4 ครัวเรือน
3. ปัตตานี เกิดวาตภัยพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปะนาเระ อำเภอยะหริ่ง และอำเภอยะรัง รวม 6 ตำบล 9
หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 29 ครัวเรือน
4. นครศรีธรรมราช เกิดวาตภัยพื้นที่อำเภอหัวไทร รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 20 ครัวเรือน
5. สงขลา เกิดวาตภัยพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเทพา อำเภอสะบ้าย้อย และอำเภอจะนะ รวม 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 24 ครัวเรือน
ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศในช่วงวันที่ 18 – 20 ธ.ค. 65 ระบุ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 3 – 5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 – 4 เมตร ทะเลอันดามันห่างฝั่งมีคลื่นสูง 2 – 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 21 – 24 ธ.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแต่ยังยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวและมีหมอกในตอนเช้า
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 18 – 20 ธ.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง และระวังภัยที่เกิดจากลมแรงและอากาศแห้ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมถึงระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2565