ปภ.รายงาน ยังมี”น้ำท่วม”ใน 14 จังหวัด ภาพรวมระดับน้ำลดลง เร่งสำรวจประเมินความเสียหาย

ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทองพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สุพรรณบุรี และนครปฐม รวม 67 อำเภอ 529 ตำบล 3,694 หมู่บ้านประชาชนได้รับผลกระทบ 204,109 ครัวเรือน สถานการณ์ภาพรวมทุกจังหวัด ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง 

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และอ่าวไทย และความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน 

ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง รวมถึงมีการระบายน้ำจากเขื่อนลงแม่น้ำสายหลัก และลำน้ำสาขา ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง 

โดยในช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 2 พ.ย. 65 ได้เกิดอุทกภัย รวม 59 จังหวัด 353 อำเภอ 1,879 ตำบล 11,770 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 528,063 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 12 ราย 

CC186070 6742 45EE 9BC5 CB48D0060B2F

ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 14 จังหวัด รวม 67 อำเภอ 529 ตำบล 3,694หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 204,109 ครัวเรือนสถานการณ์ภาพรวมระดับน้ำลดลงทุกจังหวัด ดังนี้

1. นครสวรรค์ น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพยุหะคีรี อำเภอโกรกพระ อำเภอเมืองนครสวรรค์อำเภอเก้าเลี้ยว และอำเภอชุมแสง รวม 34 ตำบล 219 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,744 ครัวเรือน 

2. ขอนแก่น น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองขอนแก่น อำเภอน้ำพอง อำเภอหนองนาคำ และหนองเรือ รวม 9 ตำบล 34 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,162 ครัวเรือน 

3. มหาสารคาม น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองมหาสารคาม อำเภอกันทรวิชัย อำเภอโกสุมพิสัย และอำเภอเชียงยืน รวม 46 ตำบล 562 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 10,740 ครัวเรือน 

4. กาฬสินธุ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอฆ้องชัย และอำเภอกมลาไสย รวม 7 ตำบล 42 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,150 ครัวเรือน 

5. ร้อยเอ็ด น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโพนทราย อำเภอจังหาร อำเภอเชียงขวัญ อำเภอโพธิ์ชัย อำเภอเสลภูมิ และอำเภอทุ่งเขาหลวง รวม 21 ตำบล 112 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ5,474 ครัวเรือน

6. ศรีสะเกษ น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอกันทรารมย์ อำเภอราษีไศลและอำเภอยางชุมน้อย รวม 24 ตำบล 168 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,138 ครัวเรือน อพยพประชาชน 913 ครัวเรือน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 35 จุด มีผู้เสียชีวิต 3 ราย

7. อุบลราชธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ อำเภอสว่างวีระวงศ์ อำเภอตาลสุม อำเภอดอนมดแดง และอำเภอพิบูลมังสาหาร รวม 21 ตำบล 121 หมู่บ้านประชาชนได้รับผลกระทบ 5,581 ครัวเรือน อพยพประชาชน 183 ชุมชน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 102 จุด 

4D92DB40 C394 49EF 9CFB 1BFEB7397D8B

8. ชัยนาท น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยนาท อำเภอวัดสิงห์ และอำเภอมโนรมย์ 

รวม 11 ตำบล 48 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,308 ครัวเรือน 

9. สิงห์บุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี อำเภอท่าช้าง อำเภอพรหมบุรี อำเภอบางระจัน และอำเภอค่ายบางระจัน รวม 21 ตำบล 149 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ3,971 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 6 ราย 

10. อ่างทอง น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอป่าโมก อำเภอไชโย อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอโพธิ์ทอง และอำเภอแสวงหา รวม 52 ตำบล 316 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ25,508 ครัวเรือน 

11. พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมในพื้นที่ 12 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะหัน อำเภอนครหลวง อำเภอมหาราชอำเภออุทัย อำเภอบ้านแพรก และอำเภอบางซ้าย รวม 151 ตำบล 997 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ81,691 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย

12. ปทุมธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก รวม 21 ตำบล 62 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,771 ครัวเรือน 

13. สุพรรณบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี อำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง รวม 43 ตำบล 271 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 26,105 ครัวเรือน

14. นครปฐม น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามพราน อำเภอบางเลน อำเภอนครชัยศรี และอำเภอกำแพงแสน รวม 68 ตำบล 593 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 14,766 หมู่บ้าน 

21674249 726C 4A2E 8AD5 87E5D44C1FD5

สำหรับการให้ความช่วยเหลือกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำท่วมและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป 

สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว โดยทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน สิ่งสาธารณประโยชน์ สถานที่ราชการ และซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภค รวมถึงเส้นทางคมนาคมให้ใช้งานได้ตามปกติ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด