นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (13 ต.ค.65) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 63,321 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 83 ของความจุอ่างฯ ยังสามารถรับน้ำได้อีก 13,783 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 20,094 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ81 ของความจุอ่างฯ สามารถรับน้ำได้อีก 4,882 ล้าน ลบ.ม.
กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 16 -18 ต.ค.65 จะมีปริมาณฝนตกในพื้นภาคใต้ตอนบน อาทิบริเวณจังหวัดเพชรบุรี และชุมพร จึงได้กำชับให้สำนักงานชลประทานในพื้นที่ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ ตามมาตรการรับมือฤดูฝนปี 65 ที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กำหนด นำข้อมูลและสถิติในปีที่ผ่านมา มาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อให้สามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
พร้อมเฝ้าระวังและควบคุมปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด พิจารณาปรับการระบายน้ำเพื่อรองรับปริมาณน้ำที่จะเพิ่มขึ้นโดยไม่กระทบต่อพื้นที่ท้ายอ่าง รวมทั้งตรวจสอบอาคารชลประทานให้พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ หมั่นกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญให้บูรณการร่วมกับหน่วยงานระดับจังหวัดในการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนถึงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับรู้รับทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือให้พร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด ตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์