ผลการศึกษาจากคณะนักวิจัยของฟินแลนด์ เดนมาร์ก และอเมริกา ซึ่งเผยแพร่ผ่านวารสารวิทยาศาสตร์เนเจอร์ ไคลเมต เชนจ์ (Nature Climate Change) ระบุว่าการละลายของแผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์ภายใต้อุณหภูมิปัจจุบันจะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 27 เซนติเมตร หรือเกือบหนึ่งไม้บรรทัด
คณะนักวิจัยนำโดยอาลัน ฮับบาร์ด จากหน่วยวิจัยภูมิศาสตร์กายภาพ มหาวิทยาลัยโอลูในฟินแลนด์อธิบายว่าแผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์เกิดความไม่สมดุลตามสภาพอากาศของอาร์กติกหรือขั้วโลกเหนือโดยแผ่นน้ำแข็งอย่างน้อย 59,000 ตารางกิโลเมตรของทั้งหมดจะละลายอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง
คำแถลงจากมหาวิทยาลัยฯ เมื่อวันศุกร์ (9 ก.ย.) ระบุว่าแผ่นน้ำแข็งที่กำลังจะละลายหายไปนั้นมีขนาดใหญ่กว่าประเทศเดนมาร์ก
คณะนักวิจัยใช้การวัดสภาพอากาศของอาร์กติกระหว่างปี 2000-2019 รวมกับข้อมูลจากดาวเทียมและธรณีฟิสิกส์น้ำแข็ง ตรวจสอบความไม่สมดุลของแผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์ได้อย่างแม่นยำ
“การศึกษานี้เป็นเรื่องใหม่มาก อาศัยการวัดจริงจากกรีนแลนด์ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา รวมกับทฤษฎีวิเคราะห์อันเป็นที่ยอมรับ” ฮับบาร์ดระบุ พร้อมเสริมว่าคณะนักวิจัยสามารถตรวจสอบการมีส่วนเพิ่มระดับน้ำทะเลทั่วโลกของกรีนแลนด์ที่น่าเชื่อถือได้
นอกจากนั้นการศึกษานี้เผยว่าหากทุกปีมีอากาศอุ่นเหมือนปี 2012 2016 หรือ 2019 ซึ่งเป็นปีที่กรีนแลนด์เผชิญคลื่นอากาศร้อน การละลายของแผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์จะเพิ่มระดับน้ำทะเลทั่วโลกเกือบ 1 เมตร
ฮับบาร์ดชี้ว่าแม้แต่กรณีที่ดีที่สุด ระดับน้ำทะเลก็จะเพิ่มขึ้น 27 เซนติเมตร แต่หากสภาพอากาศในกลุ่มประเทศกรีนแลนด์ยังคงอบอุ่นต่อไปเหมือนช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นใกล้ 1 เมตร
“นั่นจะเป็นมหันตภัยใหญ่หลวงสำหรับภูมิภาคชายฝั่งที่ราบลุ่มต่ำกว่าระดับน้ำทะเลทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันภูมิภาคเหล่านั้นจำนวนไม่น้อยเกิดน้ำหลากท่วมจากเฮอริเคนและคลื่นพายุซัดฝั่ง (storm surge) บ่อยครั้งแล้ว”
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ จาก : สำนักข่าวซินหัว (XinhuaThai)