นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายอิทธิ ศิริลัทธยากรและนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ติดตามสถานการณ์น้ำพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา โดยมีนายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทานรายงานถึงแนวทางบริหารจัดการเพื่อรองรับน้ำเหนือที่จะไหลลงสู่ภาคกลางซึ่งกรมชลประทานขออนุญาตคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราเกินกว่า 2,000 ลบ.ม./วินาที พร้อมออกหนังสือด่วนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา 11 จังหวัดเพื่อแจ้งเตือนประชาชนแล้ว
ทั้งนีัเช้าวันนี้ (5 ตุลาคม 2567) ปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาสถานี C.2 นครสวรรค์ที่ 2,367 ลบ.ม./วินาที ส่วนปริมาณน้ำแม่น้ำสะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานีที่ไหลมาสมทบอยู๋ที่อัตรส 160 ลบ.ม./วินาที การที่ปริมาณน้ำที่จังหวัดนครสวรรค์มีแนวโน้มสูงขึ้นจึงมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำเหนือที่จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและน้ำท่าจากฝนที่ตกในพื้นที่ จากเช้านี้ระบายที่ 1,999 ลบ.ม. /วินาที ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ทยอยปรับเป็นอัตรา 2,050 ลบ.ม./วินาทีในเวลา 15.00 น. และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง หากปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงมามีไม่มาก อาจปรับเพิ่มไม่ถึง 2,500 ลบ.ม. /วินาที
โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้นางนฤมลกล่าวว่า น้ำเหนือที่ไหลลงมาจะไม่กระทบต่อกทม. และปริมณฑล ยกเว้นมีฝนตกในพื้นที่ซึ่งกรมชลประทานประสานกับกทม. อย่างใกล้ชิดในการใช้สถานีสูบน้ำฝั่งตะวันออกพร่องน้ำออกจากกทม. แล้ว.