กรมชลประทานเผย อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำให้ราษฎรในพื้นที่แปลงอพยพจากการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ สร้างความมั่นคงด้านน้ำอุปโภคบริโภค เพิ่มพื้นที่ชลประทานกว่า 5 หมื่นไร่ เสริมสร้างอาชีพใหม่ให้ราษฎร พร้อมโชว์ “สกายวอล์คฯ วิวสวยท่ามกลางหุบเขา“
นายยุทธนา มหานุกูล ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 3 กรมชลประทาน เปิดเผยว่า เมื่อปี พ.ศ.2535 ราษฎรในพื้นที่แปลงอพยพจากการสร้างเขื่อนสิริกิติ์บริเวณตำบลจริม อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ยื่นถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ขอแหล่งเก็บน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร จึงทรงมีพระราชดำริให้กรมชลประทาน พิจารณาดำเนินการจัดหาแหล่งน้ำในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำให้กับราษฎร เนื่องจากพื้นที่อพยพอยู่บริเวณพื้นที่สูงสลับภูเขา ครอบคลุมพื้นที่จำนวน 53,500 ไร่ แต่การส่งน้ำเข้าพื้นที่ยังทำได้ไม่ทั่วถึง กรมชลประทานได้เริ่มก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีฯ พร้อมอาคารประกอบและระบบส่งน้ำ ตั้งแต่ปี 2554 แล้วเสร็จในปี 2568
“ลักษณะโครงการฯ เป็นเขื่อนดิน มีความสูง 55 เมตร ยาว 440 เมตร ความจุเก็บกักประมาณ 73.70 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม) พร้อมอุโมงค์ส่งน้ำความยาว 1,831.59 เมตร และระบบส่งน้ำด้วยท่อความยาวรวม 250 กิโลเมตร ปัจจุบันมีผลงานการก่อสร้างทั้งโครงการไปแล้วกว่า 98 % สามารถส่งน้ำให้พื้นที่ชลประทานได้ 38,600 ไร่ และเมื่อโครงการ ฯ แล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2568 จะสามารถส่งน้ำครอบคลุมพื้นที่ใน อ.ท่าปลา 5 ตำบล ได้แก่ ต.จริม ต.หาดล้า ต.ท่าปลา ต.ร่วมจิต ต.น้ำหมัน และ อ.เมือง 1 ตำบล ได้แก่ ต.วังดิน รวมพื้นที่ชลประทานกว่า 53,500 ไร่ ราษฎรได้รับประโยชน์ 60 หมู่บ้าน 6,856 ครัวเรือน สามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคและการเกษตรของราษฎรในพื้นที่ ได้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ อ่างฯ ห้วยน้ำรีฯ ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดให้ราษฎรได้บริโภค หรือประกอบอาชีพประมงเป็นรายได้เสริม ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ของชาว จ.อุตรดิตถ์ โดยมีไฮไลท์สำคัญ “สกายวอล์คห้วยน้ำรี” ให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวทิวทัศน์ ท่ามกลางหุบเขา อีกด้วย” ผอ.สำนักงานก่อสร้างขนาดใหญ่ ฯ กล่าว