ที่ประชุม ครม.วันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้มีมติ ลดค่าธรรมเนียมโอนของ “ธนาคารที่ดิน” เหลือ 0.01% ถึงปี 2568 ช่วยประหยัดเงินชาวบ้านหลายหมื่นล้านบาท ตามที่รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายการกระจายการถือครองที่ดินที่เป็นธรรมและยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจนและให้เกิดการใช้ประโยชน์ในที่ดินที่เหมาะสม
โดยมีสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) (บจธ.) เป็นหนึ่งในหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ดำเนินงานผ่าน 2 โครงการ คือ โครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน และโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิในที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจน
โดย ครม.มีมติอนุมัติร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีการโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์ในภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน)
มีสาระสำคัญ เป็นการลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) เกี่ยวกับค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียน การจำนองอสังหาริมทรัพย์ จากอัตราร้อยละ 2 และร้อยละ 1 เหลืออัตราร้อยละ 0.01 ตามราคาประเมินทุนทรัพย์ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไปถึงวันที่ 7 มิถุนายน 2568
ทั้งนี้ การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามภารกิจของสถาบันบริหารจัดการ ธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ในปีงบประมาณ 2565 -2568 คาดว่ารัฐจะสูญเสียรายได้ประมาณหลายหมื่นล้านบาท แต่จะเป็นโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยลดค่าใช้จ่ายการจดทะเบียนและการทำนิติกรรมของประชาชน อีกทั้งยังเป็นการกระจายการถือครองที่ดินที่เป็นธรรมและยั่งยืนแก่ประชาชนตามนโยบายรัฐบาล
สำหรับ สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) (บจธ.) จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 เพื่อทำหน้าที่กระจายการถือครองที่ดินให้ประชาชนอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน โดยมีเป้าประสงค์ช่วยให้เกษตรกรและผู้ยากจนได้ใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างทั่วถึง และรัฐสามารถนำที่ดินที่ไม่มีการใช้ประโยชน์มาบริหารจัดการให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา สามารถกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืนให้แก่เกษตรกรและผู้ยากจนได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างเหมาะสมรวมเนื้อที่กว่า 5,000 ไร่ สามารถแก้ปัญหาที่ดินของเกษตรกรที่หลุดการจำนองและการฝากขายได้กว่า 3,000 ไร่ รวมถึงสนับสนุนให้ชุมชนจัดการที่ดินร่วมกันทั้งที่ดินทำกินและที่ดินอยู่อาศัยในรูปแบบโฉนดชุมชนด้วย
บทบาทและภารกิจ “ธนาคารที่ดิน
สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) (บจธ.) มีภารกิจหลักในการบริหารจัดการที่ดินในรูปแบบต่างๆ เช่น การกระจายการถือครองที่ดิน การตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดิน การป้องกันการสูญเสียสิทธิ รวมถึงการสร้างกลไกในการบริหารจัดการที่ดินด้วยการจัดตั้ง “ธนาคารที่ดิน” กล่าวคือ
- การจัดตั้ง “ธนาคารที่ดิน” หรือบจธ. มีหน้าที่ตามพระราชกฤษฎีกาฯ ให้จัดตั้งธนาคารที่ดิน เพื่อเป็นกลไกในการพัฒนาเศรษฐกิจและบริหารจัดการที่ดิน เป็นแหล่งเงินทุนสำหรับเกษตรกรและผู้ยากจนที่เข้าถึงได้ง่ายและมีความคล่องตัวสูง เพื่อให้เกษตรกรได้มีสิทธิในที่ดินและได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างมั่นคงในรูปของธนาคาร เพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจนได้มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เพื่อคงสิทธิในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เช่น การไถ่ถอนจำนอง การไถ่ทรัพย์จากการขายฝาก และเพื่อการใช้ประโยชน์ในที่ดิน
- การสร้างนวัตกรรมต้นแบบ (Model) ในการลดความเหลื่อมล้ำด้านที่ดินอย่างยั่งยืน โดยทดลองการดำเนินงานในการลดความเหลื่อมล้ำด้านที่ดิน ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน ดังนี้
2.1 การกระจายการถือครองที่ดิน มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในการถือครองที่ดิน แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านที่ดินทำกินของเกษตรกรและผู้ยากจนที่ไม่มีที่ดินทำกินหรือมีไม่เพียงพอ ต่อการประกอบอาชีพเพื่อให้ชุมชนสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมและอยู่อาศัย โดยมีสิทธิในการครอบครองที่ดินร่วมกัน รวมทั้งเป็นกรณีศึกษาเพื่อประโยชน์ในการกำหนดแนวทางและหลักเกณฑ์การกระจาย การถือครองที่ดินที่เป็นธรรมและยั่งยืนต่อไป
2.2 การตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดิน มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจ รวบรวมข้อมูลด้านสิทธิและการใช้ประโยชน์ในที่ดินระดับอำเภอทั่วประเทศ โดย บจธ. กำหนดเป้าหมายในการเป็นฐานข้อมูลเกี่ยวกับที่ดิน ผู้ถือครองที่ดิน ผู้ไม่มีที่ดินทำกิน ผู้ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในที่ทำกิน ที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ ข้อมูลมีความทันสมัย และเป็นจริง เพื่อสนับสนุน การปฏิบัติงาน การปฏิรูปที่ดินประเภทต่างๆ สนับสนุนการใช้ประโยชน์ในที่ดินต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน การกำหนดภาษีที่ดิน
ตลอดจนการสนับสนุนข้อมูลเชิงนโยบายเพื่อประกอบการตัดสินใจของรัฐบาล และเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างเต็มศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้ประโยชน์ในที่ดินเพื่อให้เกิดความคุ้มค่า การจัดการการใช้ที่ดินให้ถูกประเภทเพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
2.3 การป้องกันการสูญเสียสิทธิ ให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยหรือเกษตรกรซึ่งใช้ที่ทำกินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการกู้ยืมเงิน โดยดำเนินการในรูปแบบกองทุนรับฝากซื้อที่ดินดังกล่าวไว้ เนื่องจากปัญหาการสูญเสียสิทธิในที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจนทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บจธ. จึงมุ่งหมายที่จะป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยให้ความสำคัญกับการป้องกันการสูญเสียสิทธิเป็นลำดับแรก คือ ให้การช่วยเหลือในรูปแบบต่าง ๆ ก่อนเข้าสู่กระบวนการขายฝาก