นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส อดีตเลขาธิการ ส.ป.ก. ระบุว่า กรณีข้อพิพาทในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จังหวัดนครราชสีมานั้น เท่าที่มีการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศ และหลักฐานในการใช้ทำกินของเกษตรกร พบว่า พื้นที่ดังกล่าว มีการใช้เป็นพื้นที่ทำกินของเกษตรกรมาก่อน และพื้นที่ทั้งหมดเป็นป่าเสื่อมโทรม ที่กรมป่าไม้มอบให้ ส.ป.ก. และมีการจำแนกก่อนมอบหมายพื้นที่ให้ ส.ป.ก. เพื่อจัดสรรให้เกษตรกร
ซึ่งหากย้อนไปเมื่อประมาณปี 2536-2537 กรมอุทยานแห่งชาติ มีการทำถนนตรวจการณ์ที่รุกล้ำมาในเขต ส.ป.ก กว่า 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นแนวเส้นใหม่ตามแนวถนน พร้อมทั้งห้ามให้เกษตรกรเข้าไปรุกล้ำพื้นที่โดยเด็ดขาด ซึ่งกรมอุทยานฯ อ้างว่าพื้นที่แนวถนนที่ทำขึ้นมาใหม่ เป็นพื้นที่ของกรมอุทยานแห่งชาติโดยชอบ เนื่องจากเป็นป่าที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ แต่ความเป็นจริงพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นป่าเสื่อมโทรมทั้งหมด สามารถตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศได้ในช่วงปี 2535-2536 ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นป่าสมบูรณ์ ที่เกิดขึ้นใหม่ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนที่เกิดขึ้นทั้งหมด ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นประเด็นทางสังคม ต้องแยกออกเป็น 2 ประเด็น
คือ 1.การกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ที่ออกโฉนดให้เกษตรกรที่ไม่มีคุณสมบัติซึ่งเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 2.พื้นที่ทับซ้อนระหว่าง 2 หน่วยงาน ยืนยันว่ากรมอุทยานแห่งชาติ รุกล้ำพื้นที่ ส.ป.ก. กว่า 1 กิโลเมตร ตามแนวถนนที่มีการสร้างใหม่
“ส.ป.ก. ไม่เคยมีข้อขัดแย้งกับกรมป่าไม้มาก่อน แต่พอแยกกัน กลายมาเป็นกรมอุทยานแห่งชาติ ก็ได้มีการสร้างถนนแนวตรวจการณ์และขับไล่ชาวบ้านออกนอกเขต ส.ป.ก. โดยอ้างว่าเป็นที่อุทยาน พร้อมไล่จับชาวบ้าน จึงทำให้เกิดปัญหามาโดยตลอด ชาวบ้านไม่กล้าเข้าใกล้ ทำให้ปัจจุบันเกิดเป็นแนวป่าใหม่ จากนี้ไปพื้นที่ดังกล่าว เป็นป่าไม้ที่สมบูรณ์แล้ว เจ้าหน้าที่ก็ไม่ควรที่จะจัดพื้นที่ดังกล่าว ให้เป็นพื้นที่ ส.ป.ก. เพื่อให้เกษตรกรใช้ทำกิน แต่ควรมอบให้เป็นพื้นที่ป่า และทำเป็นป่าชุมชนเพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่ช่วยกันรักษา พร้อมย้ำว่า พื้นที่ป่าดังกล่าวที่เกิดข้อพิพาท สามารถพิสูจน์ได้ทั้งหมดจากภาพถ่ายทางอากาศเมื่อปี 2536″ นายสรรเสริญ กล่าว