ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและผู้นำท้องถิ่น และรับฟังประเด็นปัญหาด้านการเกษตรในพื้นที่ ณ วัดทุ่งส้าน ต.นาไม้ไผ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยได้ติดตามการโครงการประตูระบายน้ำควนกรด พร้อมระบบส่งน้ำและอาคารประกอบ ซึ่งกรมชลประทาน ได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสม รวมถึงได้วางแผนขุดลอกแก้มลิง เพื่อเป็นการชะลอน้ำไม่ให้เข้าท่วมพื้นที่ท้ายน้ำ และเป็นพื้นที่สำหรับกักเก็บน้ำ เพื่อบรรเทาปัญหาให้ประชาชนในพื้นที่ บ้านนาขี้เป็ด หมู่ที่ 3 ตำบลควนกรด อำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร การอุปโภค บริโภค อีกทั้งยังเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสามารถกักเก็บน้ำและส่งน้ำได้ประมาณ 1.3 ลบ.ม. ต่อปี และช่วยเพิ่มการระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก พื้นที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 4,500 ไร่ และบรรเทาอุกภัยในเขตเทศบาลเมืองทุ่งสงและบริเวณใกล้เคียงไม่น้อยกว่า 10,000 ครัวเรือน และยังเป็นการยกระดับความเป็นอยู่ของราษฎรอีกด้วย
สืบเนื่องจาก อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช มักประสบปัญหาอุทกภัยเกือบทุกปี จากสภาพพื้นที่ตอนบนมีความลาดชันสูงและเป็นต้นน้ำของลำน้ำสายหลักที่สำคัญ ได้แก่ คลองท่าเลา คลองตม คลองท่าโหลน คลองเปิกและคลองวังหีบ เมื่อเกิดฝนตกหนัก กระแสน้ำไหลแรงและมีความเร็วมาก ประกอบกับสภาพปัจจุบันตื้นเขิน และด้วยการขยายตัวของชุมชนเมือง ทำให้มีพื้นที่รับน้ำลดลง อีกทั้งฝายทดน้ำต่างๆที่อยู่ในคลองสาขาบางแห่งมีตะกอนสะสมเป็นจำนวนมาก เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝายควนกรด ที่สามารถระบายน้ำได้เพียง 154 ลูกบาศ์กเมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที ในขณะที่ปริมาณน้ำท่าในรอบปีการเกิดซ้ำ รอบ 25 ปี ประมาณ 222 ลบ.ม. ต่อวินาที ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำหลาก และน้ำที่เข้าท่วมในพื้นที่เทศบาลเมืองทุ่งสงได้
นอกจากนี้ยังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งอีกด้วย กรมชลประทาน จึงได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมของโครงการประตูระบายน้ำควนกรด พร้อมระบบส่งน้ำและอาคารประกอบ รวมถึงขุดลอกแก้มลิง เป็นการชะลอน้ำไม่ให้เข้าท่วมพื้นที่ท้ายน้ำ และเป็นพื้นที่สำหรับกักเก็บน้ำ เพื่อบรรเทาปัญหาให้ประชาชนในพื้นที่ บ้านนาขี้เป็ด หมู่ที่ 3 ตำบลควนกรด อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จ จะช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนด้านขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร การอุปโภค บริโภค เป็นแหล่งน้ำต้นทุนสามารถกักเก็บน้ำและส่งน้ำได้ประมาณ 1.3 ลบ.ม. ต่อปี และช่วยเพิ่มการระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก พื้นที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 4,500 ไร่ และบรรเทาอุกภัยในเขตเทศบาลเมืองทุ่งสงและบริเวณใกล้เคียงไม่น้อยกว่า 10,000 ครัวเรือน อีกทั้งยังเป็นการยกระดับความเป็นอยู่ของราษฎรอีกด้วย
ในการนี้ ร้อยเอกธรรมนัสฯ ได้มอบหมายให้ กรมชลประทานเร่งดำเนินการโครงการดังกล่าว เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการน้ำ ตามแผนที่วางไว้เพื่อให้มีแหล่งน้ำต้นทุนไว้ใช้เพื่อการอุปโภค บริโภค และการเกษตรกรรม และถือเป็นการสร้างความมั่นคงด้านน้ำในพื้นที่ให้ยั่งยืนในพื้นที่
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร จำนวน 300 ราย 351 แปลง เนื้อที่ประมาณ 2,824 ไร่ ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราชได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน เนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 663,071 ไร่ เป็นพื้นที่เขตดำเนินการปฏิรูปที่ดินเนื้อที่ประมาณ 493,337 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 19 อำเภอ โดยได้ดำเนินการจัดที่ดินให้เกษตรกรแล้วทั้งสิ้น 40,275 ราย 54,571 แปลง เนื้อที่ประมาณ 480,271 ไร่ ซึ่งในปีงบประมาณ 2567 มีแผนดำเนินการปรับปรุงหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอทุ่งสง และอำภอทุ่งใหญ่ จำนวน 7,995 แปลง ได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 ให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตรแล้ว จำนวน 476 แปลง เนื้อที่ประมาณ 3,735 และเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่เกษตรกร