นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภากลาโหมว่า ที่ประชุมมีการพูดถึงการตอบสนองนโยบายของรัฐบาล คือการนำที่ดินทหารมาใช้ประโยขน์ โดยพบว่ามีการคืนที่ดินให้ประชาชนมากขึ้นจากเดิมกองทัพเรือแจ้งว่ามีพื้นที่คืนให้ประชาชน 300 ไร่บริเวณป้อมพระจุลฯ แต่วันนี้กองทัพเรือแจ้งเพิ่มว่าเป็น 3,000 ไร่
ส่วนกองบัญชาการกองทัพไทย แจ้งว่าพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ได้มีการพูดคุยจะจบแล้วมีพื้นที่ประมาณ 3,000 ไร่ ขณะที่ตนได้แจ้งในที่ประชุมว่าพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู หลังจากที่ได้ไปประชุม ครม.สัญจรมา มีการพูดคุยที่ดินหนึ่งแปลง ใน อ.เมือง กว่า 1,800 ไร่ ซึ่งมีปัญหากันมานาน และพื้นที่นั้นเป็นเขตผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ซึ่งเป็นที่ชาวบ้านทำกินอยู่ ก็จะดำเนินการคืนให้ทั้งหมด แต่จะบริหารจัดการรูปแบบใหม่คือหนองบัวลำภูโมเดล ซึ่งแตกต่างจากที่หนองวัวซอโมเดล จ.อุดรธานี
เมื่อถามว่าพื้นที่ที่จะนำมาจัดสรรทั้งหมดมีจำนวนเท่าใด นายสุทิน กล่าวว่า ตนจำไม่ได้ แต่จะให้ทีมโฆษกรวบรวมมาให้ เบื้องต้นคาดว่ากว่า 20,000 ไร่ขึ้นไป ส่วนประชาชนจะได้จัดสรรจำนวนเท่าใดก็แล้วแต่หน่วยงานรับผิดชอบเป็นผู้กำหนด เช่น ถ้าเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ จะมีการจำกัดจำนวนให้ประชาชนไม่เกิน 20 ไร่ ส่วนของกรมธนารักษ์ ตนยังไม่แม่นข้อมูลว่าเป็นเท่าไร แต่ก็มีจำกัด
พร้อมย้ำว่า การจัดสรรที่ดินดังกล่าวจะให้แล้วเสร็จในสมัยที่ตนเป็นรัฐมนตรี โดยสัปดาห์หน้าจะลงพื้นที่ไปจัดการให้จบ ทั้งที่หนองวัวซอ จะมีการพูดคุยลดราคาค่าเช่าให้กับประชาชนจากหลักร้อยให้เหลือหลักสิบ โดยจะทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกันหากอยู่ในสังกัดหน่วยงานเดียวกันเชื่อว่าประชาชนจะพอใจ ไม่มีปัญหาตามมา แต่อาจติดขัดตรงที่ประชาชนขอพิสูจน์สิทธิ์ ซึ่งอาจทำให้ล่าช้าได้ นอกจากนี้จะไปพื้นที่ป้อมพระจุลฯ และ จ.นครพนม โดยทั้งหมดนี้ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน เป็นผลงานโดยเป็นผลงานของทุกคน เป็นของตนก็ใช่ ของรัฐบาลก็ใช่ ของกรมป่าไม้ก็ใช่ หรือของกรมธนารักษ์ก็ใช่ รวมไปถึงจังหวัดด้วยซึ่งถือว่าประชาชนได้ประโยชน์