เจาะกลางใจโดย ขุนพิเรนทร์
เมื่อวานนี้ (25 พฤษภาคม 2565) แวะเวียนไปที่กรมการข้าว ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรมการข้าววันนี้ กรมเล็กๆแต่เป็นกรมที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องเกษตรกรเยอะที่สุด วันนี้เป็นกรมที่น่าจับตาที่สุดในเวลานี้ทั้งเรื่องของงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่กำลังเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร จากกรมที่ได้รับการจัดสรรงบราวๆ 2,000 ล้าน ปีนี้กระโดดขึ้น 17,000 ล้าน กลายเป็นกรมที่ของบประมาณอันดับ 2 ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทันที เป็นรองก็แค่กรมชลประทานเท่านั้น
“ขุนพิเรนทร์” ได้ข่าวเรื่องข้าวพันธุ์ใหม่มาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ พอมีโอกาส ได้สัมภาษณ์ นายณัฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ถึงเรื่องนี้ ท่านอธิบดียืนยันข้อมูลชัดเจนและพร้อมที่จะเปิดตัวเร็วๆนี้ ทั้งนี้จะเตรียมการทุกอย่างให้พร้อมทั้งเรื่องของเมล็ดพันธุ์เพื่อให้ชาวนาได้นำไปปลูก
ข้าวพันธุ์ใหม่มีที่มาน่าสนใจ เราคงได้ยินเรื่องผลผลิตเราสู้เวียดนาม สู้อินเดียไม่ได้ ข้าวคุณภาพของเราผลผลิตต่ำ ในขณะที่ต้นทุนการผลิตสูง ข้าวพันธุ์ใหม่นี้ กรมการข้าวเข็นออกมาจากงานวิจัย เพื่อให้ทันกับการแข่งขันของวงการข้าวโลกที่นับวันจะรุนแรงมากขึ้น ทำไมอธิบดีกรมการข้าวถึงมั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันได้ จุดเด่นของข้าวพันธุ์นี้ คือ เป็นข้าวที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูงถึง 1,500 กิโลกรัมต่อไร่ สามารถเพาะปลูกได้ทุกภูมิภาคของไทย เป็นข้าวอายุสั้น สามารถปลูกได้ทั้งนาปี นาปรัง
ท่านอธิบดียืนยัน เปิดตัวมาต้องว๊าว และแน่นอน “ขุนพิเรนทร์” จะติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ข้าวพันธุ์ใหม่จะเป็นตัวเลือกของเกษตรกรได้หรือไม่ เราจะสู้กับต่างชาติได้หรือเปล่าทั้งในด้านคุณภาพ ปริมาณและเรื่องราคา
เรื่องภาคการผลิต ขุนพิเรนทร์ มั่นใจในศักยภาพของชาวนาไทยอยู่แล้วแต่ที่ห่วงคือเรื่องการตลาด เพราะคำตอบสุดท้าย หากชาวนาปลูกข้าวและขายไม่ได้ราคา เราก็เจอเรื่องราวซ้ำๆอยู่ร่ำไป