นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรเป็นหน่วยงานที่ขับเคลื่อนงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 250 โครงการ ซึ่งในทุกปีคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกและตัดสินผลงานโครงการพระราชดำริและโครงการพิเศษดีเด่น
กรมวิชาการเกษตร จะคัดเลือกผลงานโครงการพระราชดำริและโครงการพิเศษดีเด่น ซึ่งเป็นโครงการที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์สู่พื้นที่เป้าหมายและทั่วไป โดยปี 2565 ผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ตัดสินให้ “การพัฒนาและขยายผลปุ๋ยชีวภาพและชีวภัณฑ์เพื่อการผลิตพืชอินทรีย์อย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริซึ่งเป็นผลงานของ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรฉะเชิงเทรา สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 ได้รับ รางวัลโครงการพระราชดำริและโครงการพิเศษดีเด่น ระดับ ดีเด่น
ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรฉะเชิงเทรา ได้พัฒนา ขยายผลการผลิตและการใช้ปุ๋ยชีวภาพและชีวภัณฑ์ซึ่งเป็นนวัตกรรมของกรมวิชาการเกษตรสู่เกษตรกรให้ผลิตพืชอินทรีย์อย่างยั่งยืน และขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์สู่เกษตรกรและผู้สนใจ เพื่อลดต้นทุน เพิ่มรายได้ในการผลิตพืชอินทรีย์ พร้อมยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรรอบศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นตัวอย่างแก่การพัฒนาพื้นที่อื่น รวมทั้งพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแปลงเรียนรู้การผลิตพืชในรูปแบบเกษตรอินทรีย์ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการเกษตร เสมือน “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต” โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตพืชของกรมวิชาการเกษตร ดังนี้
ปุ๋ยหมักเติมอากาศ เป็นกระบวนการผลิตปุ๋ยหมักรูปแบบหนึ่งที่เน้นการผสมรวมกันระหว่างวัสดุอินทรีย์ที่ให้คาร์บอนและไนโตรเจน จากซากพืช ซากสัตว์ และวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ขณะเดียวกันใช้วิธีเติมอากาศแทนการกลับกองปุ๋ย เพื่อรักษาสภาพอากาศในกองปุ๋ยให้มีความเหมาะสม เพื่อเร่งกระบวนการย่อยสลายวัสดุอินทรีย์โดยจุลินทรีย์ธรรมชาติในกองปุ๋ย ในกระบวนการผลิตสามารถควบคุมปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพปุ๋ยในกระบวนการหมักได้ จึงทำให้ได้ปุ๋ยหมักที่สมบูรณ์ ไม่มีกลิ่น ธาตุอาหารอยู่ในรูปพร้อมปลดปล่อยให้ต้นพืชได้ทันที
แหนแดง เป็นพันธุ์ที่กรมวิชาการเกษตรได้พัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมีศักยภาพและเหมาะสมที่จะพัฒนาและส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เพื่อการปรับปรุงบำรุงดิน เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตต่ำ เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วเกษตรกรสามารถผลิตได้เอง มีปริมาณไนโตรเจนค่อนข้างสูง สลายตัวง่าย และปลดปล่อยธาตุอาหารออกมาได้เร็ว ทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมีไนโตรเจน
พีจีพีอาร์-1 เป็นปุ๋ยชีวภาพที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช มีความสามารถในการตรึงไนโตรเจน เพิ่มความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารพืช สร้างสารซิเดอโรฟอร์ ที่ช่วยเพิ่มการนำธาตุเหล็กเข้าสู่เซลล์พืชเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดน้ำและปุ๋ย เพิ่มปริมาณรากพืช เพิ่มผลผลิตพืช และลดการใช้ปุ๋ยเคมี
ไส้เดือนฝอยสายพันธุ์ไทย เป็นชีวภัณฑ์ที่มีศักยภาพในการกำจัดแมลงศัตรูพืชได้หลายชนิด เช่น หนอนผีเสื้อกลางคืน ตัวอ่อนด้วงหมัดผัก เป็นต้น โดยทำให้แมลงตายลงไปภายใน 24-48 ชั่วโมง มีความปลอดภัยต่อมนุษย์ พืช สัตว์ และสิ่งแวดล้อม
แมลงหางหนีบขาวงแหวน สามารถนำแมลงหางหนีบไปใช้กำจัดศัตรูพืชได้หลายชนิด เช่น เพลี้ยอ่อนเพลี้ยหอย หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด หนอนกระทู้ข้าวโพด หนอนเจาะสมอฝ้าย และแมลงดำหนามมะพร้าว
และเห็ดเรืองแสงสิรินรัศมี มีประสิทธิภาพในการควบคุมไส้เดือนฝอยรากปมได้ดี
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า เทคโนโลยีกรมวิชาการเกษตรทั้งหมดดังกล่าว เกษตรกรสามารถดำเนินการผลิตใช้ได้ด้วยตนเอง จึงได้ถ่ายทอดและขยายผลให้ผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษา ให้มีความรู้ และสามารถนำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้และปฏิบัติได้จริงในพื้นที่ของตนเอง จนประสบความสำเร็จด้านเกษตรกรรม และพัฒนาอาชีพนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นเป็นการยกระดับฐานะความเป็นอยู่ของประชาชนรอบศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ ซึ่งจากการดำเนินงานถ่ายทอดเทคโนโลยีโดยจัดทำแปลงต้นแบบการผลิตพืชอินทรีย์สามารถขยายผลสู่เกษตรกรพื้นที่รอบศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สามารถลดต้นทุนได้ร้อยละ 35.77 ทำให้รายได้สุทธิมากกว่าเฉลี่ย 37,398 บาท/ไร่
นอกจากนี้ จากการดำเนินการแปลงต้นแบบการผลิตพืชอินทรีย์ เกษตรกรแปลงต้นแบบสามารถเป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตพืชอินทรีย์โดยใช้เทคโนโลยีของกรมวิชาการเกษตร และได้ผลิตปุ๋ยชีวภาพและชีวภัณฑ์ใช้เอง
ซึ่งมีผู้สนใจเข้าศึกษาดูงานแปลงต้นแบบรวมทั้งสิ้น 349 ราย สามรถขยายผลไปสู่เกษตรกรรอบศูนย์ศึกษาฯ และพื้นที่อื่นได้ 101 ราย ในส่วนของเกษตรกรขยายผลมีการยอมรับและมีความพึงพอใจในการใช้ปุ๋ยชีวภาพและชีวภัณฑ์ของกรมวิชาการเกษตรมากที่สุด ปัจจุบันเกษตรกรขยายผลได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP จำนวน 97 ราย และ Organic Thailand จำนวน 7 ราย