อธิบดีกรมปศุสัตว์เยือนเมืองล้านนา ตรวจติดตามงานตามนโยบายกรมปศุสัตว์ปลุกขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ในส่วนภูมิภาคขับเคลื่อนงานด้านปศุสัตว์อย่างเต็มที่
วันที่ 23 กรกฎาคม 2565 เวลา 09.00 น.นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ลงพื้นที่สร้างขวัญกำลังใจพร้อมตรวจติดตามงานตามนโยบายกรมปศุสัตว์พร้อมด้วยรักษาการปศุสัตว์เขต5,เลขานุการกรมปศุสัตว์,ผู้แทนกกจ,เข้าร่วมประชุมสัมมนา โดยอธิบดีกรมปศุสัตว์เน้นย้ำการขับเคลื่อนงานด้านปศุสัตว์ในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ดังนี้
1) นโยบายด้านสุขภาพสัตว์ เน้นเฝ้าระวังควบคุม ป้องกันโรคที่สำคัญเช่น การควบคุมและป้องกันโรคเข้มงวดในการกักสัตว์และเคลื่อนย้าย เช่น โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) โรคไข้หวัดนก (AI) การควบคุมโรคสัตว์เคี้ยวเอื้อง อาทิเช่นโรคลัมปีสกิน โรคปากและเท้าเปื่อย/โรคเฮโม้รายิกเซฟติซี้เมียเป็นต้นโดยทุกโรคเน้นเชิงรุก สอบสวนโรค คุมสถานการณ์และการระบาดให้รวดเร็ว ตามหลัก “รู้เร็วสงบเร็ว” และการสร้างเครือข่ายปฏิบัติงานในพื้นที่
2) นโยบายด้านการผลิตสัตว์ มีการวิจัยและพัฒนาพันธุ์สัตว์เพื่อนำไปใช้ประโยชน์และปรับใช้ตามสภาพพื้นที่ เน้นการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์และการผลิตสินค้าปศุสัตว์ตามศักยภาพในพื้นที่ การผลิตพันธุ์สัตว์การผลิตอาหารสัตว์
3) นโยบายด้านมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ โครงการปศุสัตว์ OKอธิบดีกรมปศุสัตว์ได้ให้ความสำคัญด้านการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตรและความปลอดภัยอาหาร เพื่อประโยชน์ต่อผู้บริโภค เกษตรกรมั่นคง ภาคเกษตรมั่งคั่ง และทรัพยากรการเกษตรยั่งยืน กรมปศุสัตว์ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยอาหารที่มีแหล่งกำเนิดมาจากสัตว์เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค กำชับให้หน่วยงานส่วนภูมิภาคส่งเสริมและขยายผลในด้านการพัฒนาภารกิจด้านคุณภาพมาตรฐานการผลิตสินค้าปศุสัตว์อย่างต่อเนื่อง
4) นโยบายด้านส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ การลดต้นทุนการผลิตปรับโครงสร้างการผลิตสินค้าการเกษตร โครงการแปลงใหญ่ และโครงการพระราชดำริ
5) การจัดการภัยพิบัติด้านปศุสัตว์และการช่วยเหลือภัยพิบัติให้เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือให้ทันถ่วงที่รวมถึงอำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรเพื่อให้เกษตรกรได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยพิบัติน้อยที่สุด
6) การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์รายสินค้าปศุสัตว์เป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาปศุสัตว์ของเกษตรกรในเกิดการพัฒนาการผลิตปศุสัตว์ทั้งเชิงรุกและเชิงรับและเพื่อให้การ ขับเคลื่อนการพัฒนางานด้านการปศุสัตว์ของประเทศสามารถดำเนินการได้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเกิด ประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติอย่างสูงสุด
อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านการปฏิบัติงาน เน้นเชิงรุก ยึดสุจริตและโปร่งใสเป็นธรรม ตามหลักธรรมาภิบาลด้านงบประมาณให้ใช้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด และด้านบุคลากร ให้พัฒนาองค์ความรู้เพิ่มศักยภาพของตนเองเพื่อใช้ประโยชน์ทั้งต่อองค์กรและประเทศชาติต่อไป และที่สำคัญที่สุดขอให้ทุกคนรู้รักสามัคคี พร้อมอธิบดีกรมปศุสัตว์ ร่วมรับฟังปัญหา/อุปสรรค ของการดำเนินงานในพื้นที่ เพื่อนำปัญหาดังกล่าวไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงชี้แนะหลักการในการดำเนินงานของกรมปศุสัตว์ ให้สามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถช่วยเหลือเกษตรกรและสำเร็จตามเป้าหมายการดำเนินงานต่อไป
อธิบดีกรมปศุสัตว์และคณะยังได้ลงพื้นที่ดูงานที่เลิศสิริฟาร์มแพะจังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อตรวจเยี่ยมฟาร์มแพะเนื้อของเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะ พร้อมให้คำแนะนำการทำวัคซีน การควบคุมป้องกันโรคระบาดสัตว์อธิบดีกรมปศุสัตว์มีนโยบายในการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงแพะ ซึ่งเป็นทางเลือกอีกอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะใช้พื้นที่เลี้ยงไม่มากก็สามารถเลี้ยงแพะได้ เนื่องจากสามารถปล่อยให้หากินพืชอาหารในธรรมชาติทั้งไม้พุ่ม กระถิน และหญ้าได้
การเลี้ยงแพะกำลังได้รับการสนใจเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากการปลูกพืชแล้ว การเลี้ยงสัตว์ยังเป็นอาชีพหนึ่งที่สามารถทำรายได้ให้แก่เกษตรกรทั้งเป็นรายได้หลักและรายได้เสริม ปัจจุบันประเทศไทยนอกจากจะเลี้ยงสัตว์เพื่อบริโภคภายในประเทศแล้วยังสามารถส่งเป็นสินค้าออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศแพะเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่กรมปศุสัตว์ได้ทำการส่งเสริมให้เกษตรกรทำการเลี้ยงเช่นเดียวกับสัตว์อื่น การผลิตแพะยังสามารถขยายตัวได้อีกมากเพราะนอกจากจะเลี้ยงแพะเพื่อการบริโภคภายในประเทศแล้ว ยังมีแนวโน้มที่สามารถจะส่งแพะไปจำหน่ายยังประเทศข้างเคียงได้อีกด้วย
นอกจากนี้อธิบดีกรมปศุสัตว์ได้มอบปัจจัยการผลิตอาทิเช่น หญ้าแพงโกลาแห้งเพื่อลดต้นทุนการผลิตและการสำรองเสบียงอาหารสัตว์ไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินรวมถึงวิตามิน แร่ธาตุ และยาถ่ายพยาธิเพื่อเสริมสร้างความสมบูรณ์ของสัตว์ ต่อไป