นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นคำร้องคณะกรรมการการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ขอให้ตรวจสอบรัฐมนตรี การถือหุ้นเกินร้อย 5 ของภริยา ว่า เรื่องไม่มีอะไร เป็นการทำหน้าที่ของนายเรืองไกร ก่อนจะบอกว่า ที่จริงนายเรืองไกลรเป็นคนเก่ง ตนรู้จักนายเรืองไกร ดี เคยทำงานร่วมกัน เป็นที่ปรึกษาในคณะกรรมาธิการ ต่างคนต่างทำหน้าที่ ตนต้องขอบคุณนายเรืองไกร ให้ตนได้ชี้แจง ซึ่งประเด็นนี้ไม่มีอะไร เป็นเรื่องที่รัฐธรรมนูญให้ครอบการดำเนินการใน 30 วัน ในเรื่องทรัพย์สิน หุ้นส่วน ซึ่งมีเอกสารหลักฐานอยู่แล้ว สามารถชี้แจงได้ไม่มีประเด็นอะไรที่หนักใจ
พร้อมกันนี้นายไชยา ยืนยันว่า มีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการในเรื่องหุ้น เป็นไปตามกรอบ 30 วันอยู่แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เอกสารที่นายเรืองไกรยื่นตรวจสอบเป็นข้อมูลเก่าใช่หรือไม่ นายไชยา กล่าวว่า ไม่เป็นไรก็ต้องชี้แจงกัน ก่อนจะออกตัวว่า
“ผมอาจจะทำบางเรื่องที่อาจจะแรงไป จับหมูเถื่อนเยอะไปมั้งฮะ ก็เลยสะดุด ไม่เป็นไรครับ นักรบย่อมมีบาดเจ็บเป็นธรรมดา โอเคนะครับ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ถือเป็นการดิสเครดิตทางการเมืองหรือไม่ นายไชยา ระบุว่า ไม่หรอกครับ ส่วนจะเป็นการขัดแข้งขัดขาคนอื่นหรือไม่ ตนไม่ทราบ ตนก็ทำงานของตนด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทุกประเด็นที่มีข้อสงสัยขอชี้แจงไปตามหน้าที่ นักการเมืองก็ต้องทำแบบนี้ เพราะเป็นบุคคลสาธารณะสามารถที่จะตรวจสอบได้