ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า มีสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม ได้ถูกสหกรณ์ฯ หักเงินไปใช้หนี้แทนสมาชิกที่เสียชีวิต โดยสมาชิกเหล่านั้นไม่ได้เป็นผู้ค้ำประกันและไม่ยินยอม ซึ่งมีผู้ถูกหักเงิน จำนวน 1,020 ราย ๆ ละ 300 บาท ซึ่งผู้ร้องได้ร้องเรียนต่อกรมส่งเสริมสหกรณ์ สำนักงาน ป.ป.ช. และสหกรณ์จังหวัด รวมทั้งกรณีคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯ ได้แสดงอิทธิพลโดยการแจ้งความดำเนินคดีต่อสมาชิกผู้คัดค้านการหักเงินดังกล่าว ถือเป็นการข่มขู่ถ้าผู้ใดขัดขวางการกระทำของพวกตน จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เข้ามาดูแลการทำหน้าที่ของคณะกรรมการสหกรณ์ นั้น
กรมส่งเสริมสหกรณ์ โดย สำนักงานสหกรณ์จังหวัดมหาสารคาม ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขมหาสารคาม จำกัด ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า เป็นการดำเนินโครงการเพื่อนช่วยเพื่อน 2 และ 3 ของสหกรณ์ฯ โดยมีมติที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2559 ให้ดำเนินโครงการเพื่อนช่วยเพื่อน 3 เพื่อเป็นเงินช่วยเหลือผู้ค้ำประกันกรณีสมาชิกผู้กู้เงินเสียชีวิตที่มีหนี้กับสหกรณ์ตั้งแต่ 2.5 ล้านบาทขึ้นไป โดยให้หักเงินจากสมาชิกสหกรณ์ที่มีหนี้กับสหกรณ์ตั้งแต่ 2.5 ล้านบาทขึ้นไป รายละ 300 บาท เพื่อนำมาชำระหนี้ให้กับสมาชิกสหกรณ์ฯ ที่เสียชีวิต ต่อมาได้มีสมาชิกเสียชีวิต 1 ราย สหกรณ์ฯ ได้มีหนังสือแจ้งหักเงินจากสมาชิก คนละ 300 บาท จากกรณีดังกล่าว ทำให้สมาชิกรายหนึ่งที่ถูกหักเงิน ได้ไปร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าตนถูกสหกรณ์ฯ หักเงินโดยไม่ได้รับความยินยอม
ภายหลัง สำนักงานสหกรณ์จังหวัดมหาสารคามได้รายงานผลการดำเนินการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามทราบ และได้มีคำแนะนำให้สหกรณ์ฯ พิจารณานำแนวทางเพื่อนช่วยเพื่อน 2 และ 3 เสนอที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2560 เพื่อให้ที่ประชุมใหญ่พิจารณาทบทวนและให้ที่ประชุมใหญ่มีมติยกเลิกการดำเนินโครงการฯ เนื่องจากเข้าลักษณะเป็นการดำเนินกิจการฌาปนกิจสงเคราะห์ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 ซึ่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 ไม่ได้ให้อำนาจสหกรณ์ดำเนินการในลักษณะนี้ได้ ทั้งนี้ ที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2560 ได้มีมติทบทวนและยกเลิกโครงการเพื่อนช่วยเพื่อน 2 และ 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากนั้น สมาชิกรายดังกล่าว ได้มีหนังสือร้องทุกข์ต่อสถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม เพื่อดำเนินคดีกับคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯ ชุดที่ 34 จำนวน 13 คน และพนักงานอัยการได้แจ้งคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 13 คน รวมทั้งสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขมหาสารคาม จำกัด ได้แจ้งความดำเนินคดีกับสมาชิกรายดังกล่าว ในฐานความผิด แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน
สำหรับความคืบหน้าการสอบสวนคดีอาญานั้น พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการจังหวัดมหาสารคามแล้ว ต่อมาอัยการจังหวัดมหาสารคามได้คืนสำนวนการสอบสวนเพื่อดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม และได้ดำเนินการออกหมายเรียก ผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำตามรูปคดี และจะสรุปสำนวนเพื่อส่งพนักงานอัยการจังหวัดมหาสารคามต่อไป
ด้าน นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดมหาสารคาม เร่งดำเนินการให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขมหาสารคาม จำกัด และสมาชิกรายดังกล่าวมาเจรจาหาทางออกของปัญหาร่วมกัน พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ เข้าไปดูแล แนะนำ ส่งเสริม สหกรณ์ในพื้นที่ให้ดำเนินงานเป็นไปตามระเบียบ ข้อบังคับ กฎหมายสหกรณ์ และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สหกรณ์สามารถเป็นที่พึ่งให้กับสมาชิก