ปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย บอก ทำหนังสือถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง คำชี้แจงในการพิจารณาปัญหาความเดือด้ร้อน ข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็นในมาตรการ และการดำเนินงานของภาครัฐที่เกี่ยวกับภาคธุรกิจการเกษตรทั้งระยะสั้นและระยะยาว
โดยสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย สรุปประเด็นนำเสนอให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐที่มีการแก้ปัญหา ทั้งในระยะสั้น และระยะยาวดังนี้
1. ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานด้านแหล่งน้ำที่มีความสำคัญที่สุดในภาคธุรกิจเกษตรกรรม ทั้งน้ำท่วม ภัยแล้งและการรักษาสมดุลทางด้านกสิกรรมควบคู่กับการรักษาระบบนิเวศ และอื่นๆ
2. การวิจัยและจัดสรรเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีประสิทธิภาพ มีความทนทานทั้งหนาวและร้อน ผลผลิตที่ตอบโจทย์ของเกษตรกร ควบคู่กับอายุที่จำกัดด้วยสภาวะผันแปรทางธรรมชาติ เช่น ทนแล้ง ทนหนาว ทนโรค และมีคุณภาพเป็นที่ต้องการทั้งตลาดบริโภคภายในประเทศ และสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก
3. ส่งเสริมโครงสร้างการลดต้นทุนการผลิต เช่น ปุ้ย ยา และต้นทุนพลังงาน เช่นน้ำมัน ไฟฟ้า รวมถึงการส่งเสริมเพื่อเข้าถึงเครื่องมือ เครื่องจักรกลนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัย อันเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับอาชีพเกษตรกรในอนาคต
4. การพักหนี้เกษตรกร ที่ทางภาครัฐมีนโยบายดำเนินการแล้วนั้น ทางสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เห็นชอบให้รัฐจัดทำโครงการพักต้นและดอกเบี้ยตามกรอบระยะเวลา 4 ปี เพื่อเป็นการผ่อนลมหายใจให้กับเกษตรกรและเป็นการตั้งหลักในการดำรงชีพ ในส่วนกรณีที่เกษตรกรมีกำลังสามารถใช้ต้นได้ ทางภาครัฐควรละเว้นดอกเบี้ยเพื่อเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรผู้นั้นด้วย
5. สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ขอให้ภาครัฐพิจารณาจัดทำโครงการช่วยเหลือค่าปรับปรุงบำรุงดินค่าเก็บเกี่ยว และค่าบริหารจัดการ ไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 20 ไม่/ราย เนื่องจากปัจจุบันปัจจัยการผลิต มีต้นทุนที่สูงและราคาข้าวเปลือกไม่มี ความแน่นอน อีกทั้งความเสี่ยงที่เกิดจากภัยธรรมชาติ
6. เสนอให้มีโครงการจำนำยุ้งฉางในส่วนของเกษตรกรที่มียุ้งฉางเป็นของตนเอง โดยได้รับการสนับสนุนค่าเก็บฝากตันละ 1,500 บาท เพื่อเป็นการคงรักษาวิถีชีวิตเกษตรกร และเป็นการช่วยซะลอการขาย อันเป็นที่มาของปัญหาปริมาณผลผลิตกดทับ
7. ข้อเสนอแนะที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือในระยะยาว
7.1 การจัดตั้งกองทุนเพื่อการเกษตร เพื่อเป็นหลักประกันในความเสี่ยง และสร้างความมั่นคงในอาชีพเกษตรกร ซึ่งสามารถกู้ยืมเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ หรือเพื่อใช้เป็นทุนสำรองเมื่อภาคเกษตรประสบปัญหาในด้านต่างๆ
7.2 การจัดตั้งกองทุนสวัสดิการซาวนา เพื่อเป็นหลักประกันชีวิตให้กับเกษตรกรเหมือนหลักการประกันสังคมมีสิทธิรักษาพยาบาลยามเจ็บป่วย บุตรหลานเบิกค่าเล่าเรียนได้ มีบำนาญหลังการเสียชีวิตเป็นต้น โดยทั้งสองกองทุนให้ภาครัฐเป็นผู้ดูแลและสนับสนุนการจัดทำโครงการโดยอาศัยความสมัครใจของเกษตรกร สมาคมชาวนาและเกษตรกร หวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเด็นข้อเสนอดังกล่าว จะสามารถนำเสนอให้หน่วยงานภาครัฐรวมถึงรัฐบาลได้ใช้เป็นข้อมูลในการประกอบการพิจารณา
นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว บอกว่า พรุ่งนี้ (30/10/66) การหารือร่วมระหว่างนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตัวแทนสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตร หน่วยงานสังกัดกระทรวงพานิชย์ ทางกรมการข้าวได้เสนอแนวทางมาตราการเร่งด่วนเรื่องข้าวหอมมะลิที่กำลังเก็บเกี่ยวและราคากำลังตกต่ำ
โดยจะเสนอให้ประกาศนโยบายให้มีโครงการชะลอการขายข้าว(จำนำยุ้งฉาง) เพื่อให้เกษตรกรเก็บข้าวไว้เข้าร่วมโครงการไม่เร่งขายข้าวสดตากข้าวไว้เก็บเข้ายุ้งฉางเพื่อจะได้ค่าเก็บตันละ 1.500 บาท ให้สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนและศูยน์ข้าวชุมชน เข้าร่วมโครงการรวบรวมข้าวจากสมาชิกเก็บเข้ายุ้งฉางได้ด้วย และให้มีโครงการช่วยเหลือดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการค้าข้าว และกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ศูยน์ข้าวชุมชนและสหกรณ์การเกษตร ในการใช้เงินรวบรวมข้าว
สำหรับชาวนาหากรัฐบาลช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปัจจัยการผลิตไร่ละ 1,500-2,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ จะทำให้ชาวนามีเงินเหลือมากขึ้นและไม่รีบขายข้าวสด จะทำให้ราคาข้าวเปลือกปรับขึ้นทันทีโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียว