ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดการสัมมนาวิชาการ การพัฒนาที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตในที่ดิน ส.ป.ก. ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 28 ตุลาคม 2566 โดยมีนายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร (ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ) ต.ช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งโครงการสัมมนาดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปบทเรียนการดำเนินงานที่ผ่านมา เชื่อมโยงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างขบวนเครือข่ายองค์กรชุมชนบ้านมั่นคงชนบทในที่ดิน ส.ป.ก.และหน่วยงานภาคีพัฒนา และร่วมกันออกแบบแผนการขับเคลื่อนการดำเนินงานพัฒนาในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินทุกมิติ และขยายผลการดำเนินงานสู่หน่วยงานที่ดินประเภทอื่น ๆ
ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย ส.ป.ก. ซึ่งมีภารกิจในการจัดที่ดินให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน พื้นที่ยึดคืนตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 36/2559 จากพื้นที่เป้าหมาย 40 แปลง 13 จังหวัด ปัจจุบันมีเกษตรกรได้รับการจัดที่ดินแล้วจำนวน 4,768 ราย 41,265 ไร่ โดย ส.ป.ก. มีภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภคที่เหมาะสม ทั้งปัจจัยด้านดินและน้ำ ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม การพัฒนาแหล่งน้ำทั้งผิวดินและใต้ดินพร้อมระบบส่งกระจายน้ำไปยังแปลง เชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม สนับสนุนอาคารรวบรวมและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรสร้างความเข้มแข็ง เพิ่มรายได้ สร้างความมั่นคงทางอาหารให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถพึ่งพาตนเองได้
ทั้งนี้ จากการบูรณาการขับเคลื่อนภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 9 หน่วยงาน ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2561 ได้ดำเนินการก่อสร้างถนนไปแล้วทั้งสิ้น 233 กิโลเมตร ก่อสร้างแหล่งน้ำ 269 โครงการ ขยายเขตไฟฟ้า 1,891 หลัง และในด้านการสนับสนุนบ้านพักอาศัย ซึ่งมีสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) เข้ามาร่วมบูรณาการขับเคลื่อน โดยสบทบทุนสร้างบ้านให้เกษตรกรไปแล้วกว่า 1,690 หลัง เป็นงบประมาณทั้งสิ้น 70,120,000 บาท สามารถตอบสนองต่อปัจจัยขั้นพื้นฐานให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน และมีการขยายผลการดำเนินงานเพิ่มเติมภายใต้ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 16 หน่วยงาน เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา โดยมีความร่วมมือเพิ่มเติมในกระบวนงานจัดผังที่ดินชุมชน สนับสนุนการรวมกลุ่ม สร้างความเข้มแข็ง พร้อมระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ จะส่งผลให้ปัญหาความเหลือมล้ำของสังคมลดลงไปได้ และสามารถช่วยให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินเข้าถึงบริการของรัฐ ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดีขึ้น พร้อมเพิ่มความสามารถและศักยภาพในการแข่งขันภาคการเกษตรต่อไป
“การส่งเสริมให้เกษตรกรมีที่ดินทำกิน จะเป็นการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความมั่นคงในเรื่องที่ดิน ที่อยู่อาศัย การพัฒนาอาชีพรายได้ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตทุกมิติ ซึ่งการที่ พอช. เข้ามาร่วมพัฒนาที่อยู่อาศัยในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างความสุขให้กับพี่น้องเกษตรกร ซึ่งการดำเนินการในพื้นที่ ส.ป.ก. นี้ กระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานภาคีเครือข่าย จะเข้ามาพัฒนาและสนับสนุนปัจจัยขั้นพื้นฐาน น้ำต้องไหล ไฟต้องสว่าง ถนนหนทางต้องมี รวมทั้งส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตร โดยใช้ตลาดนำ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหากภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมือกันในการยกคุณภาพชีวิตของคนฐานรากให้เข้มแข็ง สังคมก็จะมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว