ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากพี่น้องเกษตรกรและติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งในเรื่องเป้าหมายการยกระดับสินค้าเกษตร ทั้งเกษตรกรแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมัน และการขับเคลื่อนมังคุดทิพย์พังงาสู่สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ภายใต้ BCG Model ฤดูกาลผลิต ปี พ.ศ. 2566 และผลการเข้าตรวจสอบห้องเย็นในพื้นที่จังหวัดพังงา ณ องค์การบริหารส่วนตำบลบางวัน ต.บางวัน อ.คุระบุรี จ.พังงา
ทั้งนี้ จังหวัดพังงามีพื้นที่เกษตรกรรม 1.008 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 18.66 ของพื้นที่ทั้งหมด พื้นที่เกษตรกรรมส่วนใหญ่ ร้อยละ 81.80 ใช้สำหรับปลูกไม้ยืนต้น และไม้ผล มีพืชเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มังคุดทิพย์พังงา และทุเรียน ซึ่งภาคการเกษตรถือว่ามีความสำคัญที่ช่วยเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้จังหวัดพังงาไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และสามารถผ่านพ้นวิกฤติไปได้ด้วยดี ซึ่งผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัด หรือ GPP ในปี 2564 มีมูลค่า 48,408 ล้านบาท เป็นมูลค่าในภาคการเกษตร 18,054 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 37.30 นอกจากนี้ ยังมีภาคประมงที่สร้างรายได้ ร้อยละ 60 ของสัดส่วน GPP ภาคเกษตร อย่างไรก็ตาม จังหวัดพังงาได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาภาคการเกษตรตลอดมา โดยได้ขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อให้เกษตรกรมีความมั่นคงในอาชีพ สามารถยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกรให้กินดีอยู่ดี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ถึงแม้ว่าจังหวัดพังงาจะเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาปีละหลายล้านคน แต่ภาคการเกษตรก็ยังเป็นอาชีพที่หล่อเลี้ยง สร้างรายได้หลัก และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัด ซึ่งรายได้หลักของพี่น้องเกษตรกรส่วนใหญ่มาจากยางพารา ปาล์มน้ำมัน ไม้ผล และสินค้าด้านการประมง ซึ่งปัญหาหลักของพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ รวมทั้งจังหวัดพังงา จะเป็นเรื่องของราคาพืชผลทางการเกษตร รวมถึงปัญหาด้านแหล่งน้ำ และเอกสารสิทธิ์ในที่ดินทำกิน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไขปัญหาและบูรณาการทำงานอย่างแท้จริง จึงได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรอย่างจริงจังและให้เกิดความยั่งยืน
ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบอุปแรณ์การรวบรวม/กระจายผลผลิตมังคุด จำนวน 2,450 ใบ ให้กับตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมังคุดในพื้นที่จังหวัดพังงา จำนวน 7 อำเภอ มอบเวชภัณฑ์สำหรับดูแลสุขภาพสัตว์ และแร่ธาตุอาหารสัตว์ จำนวน 50 ชุด ให้กับตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ มอบพันธุ์ปลาน้ำจืด (ปลาตะเพียน และปลาสุลต่าน) ให้กับเกษตรกร จำนวน 10 ราย และมอบเงินอุดหนุนเสริมสร้างความเข้มแข็งองค์กรชุมชนประมงพื้นบ้าน ชุมชนละ 100,000 บาท จำนวน 4 ชุมชน