ทางการออสเตรเลียเพิ่มหมู่เกาะจระเข้ ซึ่งประกอบด้วยเกาะจำนวน 20 แห่ง และน่านน้ำรอบเกาะ ลงในเครือข่ายพื้นที่คุ้มครองโดยชนพื้นเมืองของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้กลุ่มชนพื้นเมืองได้รับเงินทุนจากรัฐบาลเพื่อดำเนินแผนการจัดการสำหรับสิ่งมีชีวิตที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ขยะทะเล วัชพืช สัตว์เร่ร่อน และไฟป่า
เกาะดังกล่าว ตั้งอยู่นอกชายฝั่งรัฐนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีของออสเตรเลีย ห่างจากดาร์วิน เมืองเอกของรัฐฯไปทางตะวันออกมากกว่า 400 กิโลเมตร
โดยเป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ 28 สายพันธุ์ และสิ่งมีชีวิตอพยพย้ายถิ่นกว่า 40 สายพันธุ์ อาทิ วาฬ โลมา เต่า และนกชายเลนหลายพันตัว
การกำหนดข้างต้นทำให้ขนาดของเครือข่ายพื้นที่คุ้มครองฯ รวมอยู่ที่กว่า 50,000 ตารางกิโลเมตร และทำให้สัดส่วนผืนดินออสเตรเลียที่ได้รับการคุ้มครองโดยรัฐบาลกลางแตะร้อยละ 22 โดยรัฐบาลมุ่งมั่นคุ้มครองผืนดินและน่านน้ำออสเตรเลียร้อยละ 30 ภายในปี 2030
ทันยา พลิเบอร์เซก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของออสเตรเลีย กล่าวว่าชนพื้นเมืองออสเตรเลียประสบความสำเร็จในการดูแลผืนดินเป็นระยะเวลากว่า 65,000 ปี
ด้าน ลีโอนาร์ด โบเวย์นู เจ้าของดั้งเดิมของหมู่เกาะจระเข้และผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมผู้พิทักษ์หมู่เกาะดังกล่าวกล่าวกับสำนักข่าวเอบีซีว่าการขึ้นทะเบียนครั้งนี้จะช่วยรักษาการเชื่อมต่อของชาวมารินกากับหมู่เกาะจระเข้
“ผมอยากเห็นเยาวชนบนเกาะได้ใช้ชีวิตในชนบทและเรียนรู้จากผู้สูงอายุ ทั้งคอยนึกหาวิธีคุ้มครองสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ หากคุณเป็นเจ้าของดั้งเดิม คุณต้องคอยดูแลรักษาให้ผืนดินและผืนทะเลแข็งแกร่งและแข็งแรงต่อไป”
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ จาก : สำนักข่าวซินหัว(Xinhua)