นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยภายหลังได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายประยูร อินสกุล) ให้เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการวางแผน และติดตามการป้องกันแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร ครั้งที่ 1/2566 ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบ (ร่าง) การป้องกันแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรในช่วงฤดูฝน ปี 2566โดยจะนำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อโปรดทราบ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นกรอบแนวทางในการดำเนินงานป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติด้านการเกษตร ในช่วงฤดูฝน ซึ่งประกอบด้วย 3 แผนงาน ดังนี้
1. การป้องกันและเตรียมความพร้อมในด้านการวางแผนการจัดสรรน้ำฤดูฝนและการเพาะปลูกพืชฤดูฝนในเขตชลประทาน ปี 2566 การเพิ่มและปรับปรุงแหล่งกักเก็บน้ำ การปฏิบัติการฝนหลวงในฤดูกาลฝนล่าช้ากว่าปกติ หรือฝนทิ้งช่วงระหว่างฤดูเพาะปลูก และการเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อน เพื่อสำรองเป็นน้ำต้นทุนในช่วงฤดูแล้ง รวมถึงการปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกร และให้คำแนะนำการทำเกษตรในพื้นที่ในการลดความเสี่ยงรวมทั้งการเตรียมเครื่องมือเครื่องจักร ได้แก่ เครื่องสูบน้ำ 2,289 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 617 เครื่อง เครื่องจักรกลสนับสนุนอื่น ๆ 2,476 หน่วย เรือตรวจการ 195 ลำ รถบรรทุก (สัตว์) 119 คัน หญ้าแห้ง 5,140 ตัน ถุงยังชีพสัตว์ 3,000 ถุง ทีมสัตว์แพทย์เคลื่อนที่ 119 หน่วย สัตวแพทย์ 357 คน จุดอพยพสัตว์ 2,396 จุด เมล็ดพันธุ์พืชผัก 22,125 ซอง (160.45 กิโลกรัม)
2. การเผชิญเหตุและหยุดยั้งความเสียหาย มีการบูรณาการบริหารจัดการปรับปฏิทินการเพาะปลูกข้าวนาปีเร็วขึ้น 1 เดือนซึ่งมีเป้าหมาย พื้นที่คาดการณ์เพาะปลูก 0.967 ล้านไร่ ใช้น้ำเพื่อการเพาะปลูก 940 ล้านลูกบาศก์เมตรในพื้นที่ลุ่มต่ำ10 ทุ่งลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง การติดตั้งเครื่องจักร-เครื่องมือ เพื่อเร่งระบายน้ำในพื้นที่ประสบภัย รวมถึงการสนับสนุนเสบียงอาหารสัตว์ เวชภัณฑ์ เพื่อช่วยเหลือสัตว์ในพื้นที่ประสบภัย และจัดหน่วยเฉพาะกิจลงพื้นที่ประสบภัย เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกร รวมถึงประเมินความเสียหายและความต้องการความช่วยเหลือเบื้องต้น
3. การฟื้นฟูให้ดีกว่าเดิม เร่งสำรวจและประเมินความเสียหายเพื่อช่วยเหลือและเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 การสนับสนุนพันธุ์สัตว์น้ำ และเมล็ดพันธุ์ดีให้แก่เกษตรกร การซ่อมแซมโครงสร้าง และอุปกรณ์ทางการเกษตร การบำบัดน้ำเสียและปรับปรุงดิน ตลอดจนการสนับสนุนแหล่งเงินกู้ และการประเมินมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจด้านการเกษตร