ปชป.ประกาศ 10 นโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมประมงครบวงจรสร้างมูลค่า6 แสนล้าน ดันไทยยืนหนึ่งประมงโลก

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเพชรบุรี เขต 1 ในฐานะทีมเศรษฐกิจกล่าวในเวทีดีเบต “อนาคตประมงไทยหลังการเลือกตั้ง” ว่า พรรคประชาธิปัตย์เชื่อมั่นในศักยภาพประมงไทยโดยยกระดับนโยบายประมงเป็นวาระเร่งด่วนแห่งชาติ บนแนวทางการพัฒนาประมงอย่างยั่งยืน สู่เป้าหมายประเทศผู้นำประมงโลกภายใต้ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจสีฟ้า (Blue Economy) สร้างมูลค่า 6 แสนล้าน สร้างฐานเศรษฐกิจใหม่ 5 แนวทาง

1.เร่งรัดพัฒนาอุตสาหกรรมประมง กระจายการลงทุน 18 กลุ่มจังหวัด

2.สร้างฐานใหม่ เขตเศรษฐกิจพิเศษประมง อ่าวตัว ก.,อันดามัน,อ่าวไทย, 4 จังหวัดใต้สุด และทุกภาค

3.ส่งเสริมการลงทุนประมงไทยในต่างประเทศ

4.ฟื้นฟูพัฒนาประมงสู่ศักยภาพใหม่ ทั้งประมงนอกน่านน้ำ ประมงพาณิชย์ ประมงพื้นบ้าน อุตสาหกรรมกุ้งไทย และประมงเพาะเลี้ยงรวมถึงอุตสาหกรรมประมงแห่งอนาคต เช่นอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง อาหารแห่งอนาคต(สาหร่าย โปรตีนทางเลือกใหม่)ประมงอินทรีย์ ประมงมูลค่าสูง (เวชสำอางค์ วิตามิน ยา-อาหารเสริม)และประมงท่องเที่ยว

5.เดินหน้าการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก

สำหรับ 10 นโยบายประมงเร่งด่วน ที่พรรคประชาธิปัตย์มุ่งดำเนินการสร้างอนาคตประมงไทย ได้แก่

1.การปลดล็อกกฎหมายประมงภายใต้IUU

2.การเริ่มต้นใหม่ (Set Zero )จัดประชาพิจารณ์ ประเด็นนิรโทษกรรมเรือประมง

3.โครงการเรือประมงออกนอกระบบจบใน 90 วันเฟส 1 จำนวน 1,007 ลำ และ120วัน เฟส 2 จำนวน 792 ลำ

4.การประกันราคากุ้งขั้นต่ำและสัตว์น้ำอื่น ๆโดยภาคเอกชนในระบบไตรภาคี โดยมีการขับเคลื่อนมาแล้วโดยบอร์ดกุ้ง

5.เติมทุนองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น1แสนต่อปี

6.น้ำมันประมงราคาถูกสำหรับประมงพื้นบ้าน 5 หมื่นลำ

7.จัดตั้งธนาคารหมู่บ้านประมง ธนาคารชุมชนประมง 2 ล้าน

8.จัดตั้งสภาการประมงแห่งประเทศไทยและกองทุนประมงแห่งชาติ

9.ต่อยอดศูนย์ AIC ประมง ส่งเสริมการวิจัยพัฒนาการประมงและอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ

10.บริการดิจิตอลเสร็จภายใน 4 ปี สานต่อโครงการ E-Fisheries NSW

“ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ดูแลกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ.ฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพประมงไทยสามารถสร้างเงินเข้าประเทศในปี 2565 จากการส่งออกสินค้าประมง 2.3 แสนล้านบาท สูงสุดใน 9 ปี ในขณะที่นำเข้า 1.5 แสนล้านบาทโดยได้เปรียบดุลการค้ากว่า 8 หมื่นล้านบาท แยกเป็นการส่งออกทูน่ากระป๋อง5 แสนตัน มูลค่ากว่า 7 หมื่นล้านบาท สูงสุดในรอบ 7 ปี ส่งออกกุ้งและผลิตภัณฑ์1.5 แสนตัน มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้าน สูงสุดในรอบ 3 ปี และส่งออกอาหารกระป๋องสาหรับสุนัขและแมว 1.4 แสนตัน มูลค่า 1.9 หมื่นล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์.”นายอลงกรณ์ กล่าวในที่สุด