นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จากปัญหาชาวสวนทุเรียนหมู่ 3 บ้านป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน ประสบปัญหาต้นทุเรียนยืนต้นตายจำนวนมาก สร้างความเสียหายให้กับผลผลิตทุเรียนป่าละอูที่จะเก็บจำหน่ายได้ในช่วงเดือนกรกฏาคม- สิงหาคมนี้ และทำให้ชาวสวนส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้สินที่กู้ยืมมา
หลังทราบเรื่อง จึงพร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าสาเหตุของปัญหาเกิดจากน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยป่าเลาส่งไปไม่ถึงปลายทาง ซึ่งการใช้น้ำที่ผ่านมาจะใช้กาลักน้ำซึ่งมีอยู่ 2 ตัว คือกาลักน้ำของชลประทานขนาด 12 นิ้วจำนวน 1 ตัว เป็นกาลักน้ำหลักในการดูดน้ำจากอ่างเก็บน้ำแล้วส่งผ่านคูส่งน้ำตามธรรมชาติไปให้เกษตรกร กาลักน้ำตัวที่ 2 ขนาด 8 นิ้วเป็นของหมู่บ้านเอง เพราะปัจจุบันมีการทำสวนปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ประกอบกับอากาศร้อนเป็นช่วงที่ทุเรียนต้องการน้ำไปเพิ่มความชุ่มชื้น ดังนั้นปริมาณการใช้น้ำก็เพิ่มมากขึ้นตาม
ก่อนหน้านั้นได้รับทราบว่ากาลักน้ำขนาด 12 นิ้ว เกิดมีปัญหาไม่ทำงานเนื่องจากจุดที่ทำการสูบน้ำปริมาณน้ำแห้งลดลงไปทำให้สูบน้ำไม่ขึ้นเป็นผลทำให้มีลมเข้าระบบ ซึ่งขณะนี้กรมชลประทาน กำลังเร่งซ่อมแซมเมื่อแล้วเสร็จลองเดินระบบแต่กำลังไม่เพียงพอ ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญจากกรมชลประทานมาแก้ไขระบบให้
ในขณะที่ระบบยังไม่สมบูรณ์ก็มีการเดินเครื่องสูบน้ำ ขนาด 12 นิ้ว ทดแทนไปก่อน ปัญหาที่ผ่านมาที่ต้นทุเรียนเหี่ยวเฉาแห้งก็คือ กำลังการส่งน้ำเหลือแค่ท่อ 8 นิ้ว ซึ่งไม่เพียงพอ จึงเสริมปัจจัยต่างๆ โดยนำน้ำในเขตก่อสร้างที่เป็นส่วนเกินสูบกลับเข้าไปในระบบ แล้วก็ให้ทาง ปภ.ช่วยอัดน้ำจากหน้าฝายเข้าร่องระบายน้ำของหมู่ 3 ให้เกษตรกรที่มีปัญหา แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องพิจารณาด้วย เพราะว่าน้ำเป็นของหลายหมู่บ้านต้องใช้ร่วมกัน เพราะฉะนั้นการนำน้ำอัดเข้าที่หมู่ 3 จะเป็นแค่ช่วงระยะเวลาอันสั้น
ล่าสุดขณะนี้น้ำถึงท้ายน้ำแล้วต้นทุเรียนที่หงิกงออยู่และกำลังจะตายก็น่าจะพอจะช่วยได้และทางเกษตรอำเภอได้เข้าไปให้ความรู้ในเรื่องของการใช้น้ำ และพบว่าชาวสวนบางรายยังใช้น้ำอย่างไม่จำกัด คือ มีน้ำปุ๊บก็รีบใช้ รีบเอาไปรด ทำให้เกิดปัญหาชาวบ้านต้นน้ำได้น้ำมากกว่าปลายน้ำ จึงตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำ เมื่อน้ำผ่านมาจะยังไม่รีบดูดน้ำขึ้นมาใช้ คอยจนน้ำขึ้นเต็มจนได้ระดับแล้วถึงค่อยสูบไปใช้ แบ่งเวลากันสูบแบ่งเวลากันใช้ อันนี้เป็นผลจากการประชุมร่วมกับผู้ปกครองท้องที่ที่ได้เข้าไปพูดคุยกับชาวสวนทำความเข้าใจ
ด้านนายธีรวิทย์ เงินเปีย หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สำรวจพบว่า พื้นที่หมู่ 3 บ้านป่าละอู ใช้น้ำจากฝายที่ส่งมาตามคูซึ่งอยู่ด้านล่างของอ่างเก็บน้ำห้วยป่าเลา
แต่ที่ผ่านมาชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เหนือน้ำได้ผันน้ำเติมเข้าสระของตัวเองจนส่งไปไม่ถึงชาวบ้านที่อยู่ท้ายน้ำ ทางโครงการชลประทานจังหวัดฯ จึงแก้ปัญหาด้วยการใช้เครื่องสูบน้ำจากระบบกาลักน้ำเดิมและติดตั้งเครื่องสูบส่งน้ำระยะไกลเพื่อสูบส่งน้ำไปให้ถึงประชาชนในพื้นที่ท้ายน้ำ พร้อมประชุมทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการแย่งน้ำกันใช้
โดยขณะนี้อ่างเก็บน้ำห้วยป่าเลา มีปริมาณน้ำร้อยละ 40 จากความจุอ่าง 1.9 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่กรมชลประทาน อยู่ระหว่างการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำป้านป่าละอู ขนาดความจุ 10.46 ล้านลูกบาศก์เมตรคาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 1-2 ปีข้างหน้า จะช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ได้