กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เดินหน้าสร้างความเข้มแข็งแก่สหกรณ์ไทยในยุคดิจิทัล

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เดินหน้าสร้างความเข้มแข็งแก่สหกรณ์ไทยในยุคดิจิทัล มุ่งบูรณาการเชื่อมเครือข่ายการทำงานพัฒนาสหกรณ์เข้มแข็งทั้งระบบ

นางสาวอัญมณี ถิรสุทธิ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ร่วมบูรณาการงานตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการพัฒนาระบบสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็ง โดยขับเคลื่อนการดำเนินงานสร้างความเข้มแข็งด้านการเงินการบัญชี ซึ่งถือเป็นงานสำคัญกับความมั่นคงของระบบสหกรณ์ ทั้งด้านการวางระบบการตรวจสอบบัญชี เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นและสร้างความโปร่งใสผ่านการตรวจสอบบัญชีของผู้สอบบัญชี การเสริมสร้างระบบการควบคุมภายในที่ดี ซึ่งนับเป็นกลไกพื้นฐานสำคัญของกระบวนการกำกับดูแลการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของสหกรณ์ให้เป็นไปอย่างถูกต้องและเหมาะสมพร้อมให้คำปรึกษาแนะนำแก่สหกรณ์ด้านการเงินการบัญชีและจุดอ่อนของระบบการควบคุมภายในที่ตรวจพบ

%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1 1 1
สร้างความเข้มแข็งแก่สหกรณ์ในยุคดิจิทัล

“โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่เป็นยุคดิจิทัล มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้อย่างครบวงจร กรมฯ จึงได้เพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติงานเพื่อให้ก้าวทันกับยุคสมัย โดยพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับสหกรณ์ได้นำไปใช้เป็นเครื่องมือในการช่วยบริหารจัดการงานสหกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพและให้บริการสมาชิกได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว อาทิ แอปพลิเคชัน Smart4M เครื่องมือช่วยอำนวยความสะดวกในการบริหารจัดการสหกรณ์ สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบ ติดตามการดำเนินการของสหกรณ์ รวมไปถึงนวัตกรรมอื่น ๆที่สนับสนุนการดำเนินงานของสหกรณ์ในยุคดิจิทัล อาทิ โปรแกรมเฝ้าระวังและเตือนภัยทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร (CFSAWss v.2) ระบบบริการข้อมูลสารสนเทศทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร (Web Service) เป็นต้น เพื่อสนับสนุนให้สหกรณ์มีระบบบริหารจัดการและระบบการควบคุมภายในที่ดี สามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงภายในองค์กรและแก้ไขข้อสังเกตตามที่ได้รับคำแนะนำ ส่งผลให้สหกรณ์มีความมั่นคง สมาชิกและบุคคลภายนอกที่ทำธุรกรรมกับสหกรณ์มีความเชื่อถือสหกรณ์มากขึ้น ซึ่งเป็นการป้องกันการทุจริตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้”

                 

%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A13
สร้างความเข้มแข็งแก่สหกรณ์ในยุคดิจิทัล

อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวอีกว่า นอกจากการดำเนินงานเสริมสร้างความเข้มแข็งให้สหกรณ์ผ่านการสร้างระบบการตรวจสอบบัญชีและระบบควบคุมภายในที่เข้มแข็ง กรมฯ ยังให้ความสำคัญกับการสร้างเสริมองค์ความรู้ด้านบัญชี โดยพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้จัดทำบัญชีและงบการเงิน และนำข้อมูลทางบัญชีมาใช้ในการบริหารจัดการ สามารถพึ่งพาตนเองได้ พร้อมทั้งส่งเสริมการจัดทำบัญชีแก่เกษตรกรและกลุ่มเป้าหมายได้สามารถใช้บัญชีเป็นรากฐานสำคัญในการวางแผนการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชีหรือครูบัญชีอาสา เพื่อเป็นต้นแบบถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ด้านบัญชีต่อยอดไปถึงการปลูกฝังให้เยาวชนมีองค์ความรู้ด้านบัญชี สู่การเป็นเกษตรกรอัจฉริยะ (Young Smart Farmer) โดยใช้บัญชีเป็นรากฐานสำคัญในการวางแผนการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ สร้างวินัยทางการเงิน รู้จักวางแผนทางการเงินและนำไปสู่การลงทุนในอนาคต

               

“กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีความมุ่งมั่นตั้งใจเตรียมความพร้อมพัฒนาสหกรณ์ไทยในยุคดิจิทัล โดยบูรณาการกับเครือข่ายทุกภาคส่วนในขบวนการสหกรณ์ ตั้งแต่คณะกรรมการสหกรณ์ ฝ่ายจัดการ ผู้ตรวจสอบกิจการ ผู้สอบบัญชีสหกรณ์ผู้กำกับดูแล และสมาชิกสหกรณ์ รวมไปถึงความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมส่งเสริมสหกรณ์ และหน่วยงานภายนอกอื่น ๆ เพื่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานพัฒนาและวิเคราะห์แก้ไขปัญหาร่วมกัน ด้วยเป้าหมายเดียวกันใน   การขับเคลื่อนการสร้างความเข้มแข็ง โปร่งใสในสหกรณ์ ส่งผลประโยชน์สู่สมาชิกและช่วยสร้างฐานรากเศรษฐกิจชุมชนที่มีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศให้ก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็ง” อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าว