นาย มงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 มกราคม2665 กรมประมง ออกระเบียบกรมประมงว่าด้วยการจ่ายเงินสินบน เงินรางวัล และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน พ.ศ. 2566 ซึ่งรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา ใจความสำคัญ คือ ผู้แจ้งความนำจับ /หัวหน้าเจ้าหน้าที่ผู้จับ / เจ้าหน้าที่ผู้จับ จะได้รับเงินส่วนนี้ และอีกส่วนเป็นเงินค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ซึ่งการจับกุมผู้กระทำผิดให้หักค่าปรับได้ร้อยละ 60-80 ( หรือตั้งแต่ 6,000 ไปจนถึง 2,400,000 บาท) แล้วแต่ความผิดที่เจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อกล่าวหา
นาย มงคล บอกว่า ระเบียบนี้จะเป็นแรงจูงใจให้เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจในการจับกุมชาวประมง ซึ่งอาจจะมีการยัดเยียดข้อกล่าวหา ที่มีการกล่าวหาอยู่ในปัจจุบัน และจะทำให้เจ้าหน้าที่ มีการจ้องจับชาวประมงในทุกกรณี เนื่องจากมีหน่วยงานที่เป็นเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายประมงจำนวนมากมายหลายๆหน่วยงาน และจะทำให้เกิดแรงจูงใจในการจ้องจับผิดกับชาวประมง เพราะบทลงโทษที่รุนแรงมีโทษปรับที่สูงมาก มีการกระทำความผิดได้โดยง่ายดาย และมองว่า การออกระเบียบดังกล่าวมา คล้ายกับเพื่อปล้นชาวประมงอย่างชัดเจน
นาย มงคล บอกอีกว่า หากกรมประมงไม่ยกเลิกระเบียบนี้ ในฐานะผู้นำองค์กรชาวประมง จะขอความเห็นพี่น้องชาวประมงทั้งประเทศ ให้ออกมาชุมนุมสาธารณะหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปจนถึงหน้าทำเนียบรัฐบาล และจะมีการยกระดับการเคลื่อนไหว โดยจะขอมติที่ประชุมใหญ่สามัญที่กำลังเตรียมจัดประชุมในเร็วๆนี้ ขอมติจอดเรือประมงทั้งประเทศ ด้วย
มงคล ย้ำด้วยว่า ปัจจุบัน ปัญหาที่เกิดขึ้นกับภาคประมง ยังมีอีกมากมายซึ่งรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังไม่ได้แก้ปัญหาให้โดยเฉพาะร่างพรบ.ประมง พ.ศ…..ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ที่จะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566
และก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม ได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีช่วยแก้ไขกฎหมาย พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558/2560 โดยให้สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้พิจารณาโดยเร่งด่วน และขอให้ตัวแทนชาวประมงมีส่วนร่วมในการแก้ไขกฎหมาย กับช่วยเร่งรัดการซื้อเรือประมงที่มีใบอนุญาตประมงที่แจ้งความประสงค์ไว้ออกนอกระบบโดยเร็วตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอไว้