ก.เกษตรฯ ยกขบวนสินค้าคุณภาพ ราคาเป็นธรรมส่งตรงถึงมือผู้บริโภค ภายใต้โครงการ “เกษตรช่วยประชาชน ลดค่าครองชีพ”

กระทรวงเกษตรฯ ยกขบวนสินค้าคุณภาพ ได้มาตรฐาน ราคาเป็นธรรม ส่งตรงถึงมือผู้บริโภค ภายใต้โครงการ “เกษตรช่วยประชาชน ลดค่าครองชีพ” ระหว่างวันที่ 27 – 29 ธ.ค. 65 ณ ลานกิจกรรมตลาดน้ำ อ.ต.ก. พร้อมเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการ ในการจำหน่ายผ้าไหมไทยที่มีคุณภาพให้กับผู้บริโภค

322201746 1201293954111880 1313350636827304019 n
“เกษตรช่วยประชาชน ลดค่าครองชีพ”

 

นายธนา ชีรวินิจ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการ “เกษตรช่วยประชาชน ลดค่าครองชีพ” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 29 ธันวาคม 2565 ณ ลานกิจกรรมตลาดน้ำ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร จตุจักร กรุงเทพฯ ซึ่งโครงการดังกล่าว เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 หลังจากได้รับผลตอบรับที่ดีในครั้งแรก ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเชิงบูรณาการระหว่างภาครัฐและเอกชน ได้แก่ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กรมปศุสัตว์ กรมหม่อนไหม กรมการข้าว สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และ บริษัท วี.ซี.มีท โปรเซสซิ่ง จำกัด โดยได้คัดสรรสินค้าเกษตรคุณภาพสูงที่มีมาตรฐานการผลิตมาจำหน่ายในราคาพิเศษ อาทิ เนื้อหมูอนามัย วี.ซี.มีท ที่มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย, ไข่ไก่สด การันตีด้วยมาตรฐานปศุสัตว์ OK และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากหม่อนไหม เป็นต้น

  

322540496 577836777518396 3610202990228273656 n
“เกษตรช่วยประชาชน ลดค่าครองชีพ”

“ภาคการเกษตรมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นภาคเศรษฐกิจ ที่ช่วยสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารและสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนมาก การเพิ่มศักยภาพเกษตรกรสู่ผู้ประกอบการด้านการเกษตร จึงเป็นการสร้างโอกาสและพัฒนาระบบการผลิตสินค้าเกษตรให้มีมาตรฐาน เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร เพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรและพัฒนาอาชีพเกษตรสู่เกษตรมูลค่าสูงอย่างยั่งยืน แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และปัญหาต่าง ๆ ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ จนทำให้ผลผลิตล้นตลาด ผักผลไม้และสินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาสูง การจัดทำโครงการ “เกษตรช่วยประชาชน ลดค่าครองชีพ” นี้ จึงเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนจากปัญหาสินค้าราคาแพง เพื่อประชาชนคนไทยจะได้สามารถบริโภคสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม จึงขอยืนยันว่ากระทรวงเกษตรฯ พร้อมที่จะช่วยเหลือ และยืนเคียงข้างเกษตรกร ประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบการทุกท่าน และพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการผลักดันประเทศไทยให้ก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคง” นายธนา กล่าว

       

จากนั้นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานและสักขีพยาน ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการ ในการจำหน่ายผ้าไหมไทยที่มีคุณภาพให้กับผู้บริโภค ระหว่างกรมหม่อนไหม กับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ซึ่งการลงนามดังกล่าว จะเป็นการยกระดับความร่วมมือระหว่างกรมหม่อนไหม และ อ.ต.ก. ในการร่วมกันส่งเสริมและเพิ่มช่องทางการตลาดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ตามนโยบายการตลาดนำการผลิต ให้กับเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการผ้าไหมและผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ได้มีรายได้เพิ่มขึ้นและความเป็นอยู่ดีขึ้นจากการจำหน่ายผ้าไหมไทยที่มีคุณภาพให้กับผู้บริโภค โดยสามารถหาซื้อได้ที่ร้าน 109 ตลาด อ.ต.ก. นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ในกิจกรรมหรือโครงการ รวมถึงร่วมกันเผยแพร่ผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างการรับรู้ต่อประชาชนให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและประเทศชาติต่อไป

 

ทั้งนี้ กรอบข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว อ.ต.ก. เป็นผู้ดำเนินการจัดหาพื้นที่ ณ ตลาด อ.ต.ก. ให้แก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการ และกรมหม่อนไหม เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการจัดจำหน่ายผ้าไหมไทยและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ได้จากการวิจัยและพัฒนาของกรมหม่อนไหม ส่วนกรมหม่อนไหมเป็นผู้ดำเนินการประสานงานในการจัดหาเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการ ในการจัดหาผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทยที่มีคุณภาพ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ได้จากการวิจัยและพัฒนาของกรมหม่อนไหม เพื่อมาจำหน่ายอย่างเหมาะสม รวมถึงให้การสนับสนุน ส่งเสริมการจัดทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย หรือกลยุทธ์ด้านการตลาด รวมถึงกำหนดราคาในการจำหน่ายอย่างเหมาะสม โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันสนับสนุนการจัดกิจกรรมด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง