วิกฤติอาหารทั่วโลก!!! ผลกระทบของสงครามรัสเซียกับยูเครน ทำอินเดียต้องประกาศของดส่งออกข้าวสาลี ส่งผลให้ข้าวเปลือก ข้าวโพดของไทยเริ่มขยับตัวสูงขึ้น
รัฐบาลอินเดียมีคำสั่งสั่งห้ามการส่งออกข้าวสาลี โดยให้มีผลบังคับใช้ทันที ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 สต็อกข้าวสาลีของอินเดียในคลังขององค์การอาหารแห่งชาติ (Food Corporation of India; FCI) มีปริมาณลดลงเหลือ 16.19 ล้านตัน หรือลดลงประมาณร้อยละ 42 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่สต็อกธัญพืชอาหารทั้งหมด (The total food grain stocks) มีปริมาณลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ที่จำนวนประมาณ 31 ล้านตัน
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ปริมาณข้าวสาลีในปัจจุบันมีไม่เพียงพอต่อความต้องการภายใต้พระราชบัญญัติความมั่นคงด้านอาหารแห่งชาติ (the National Food Security Act; NFSA) และโครงการ Pradhan Mantri Garib Kalyan Anna Yojana (PMGKAY) ซึ่งขยายระยะเวลาออกไปจนถึงวันที่30 กันยายน 2565 โดยรัฐบาลมีความต้องการใช้ข้าวสาลีประมาณ 25-26 ล้านตันต่อปี สำหรับการใช้ตามพระราชบัญญัติดังกล่าว และอีกประมาณ 10 ล้านตัน สำหรับการดำเนินการตามโครงการ PMGKAY
ทั้งนี้ จากการที่สต็อกข้าวสาลีมีไม่เพียงพอ รัฐบาลอินเดียจึงมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนจากข้าวสาลีที่จะใช้ภายใต้โครงการ PMGKAY เป็นข้าวแทน ซึ่ง ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 องค์การอาหารแห่งชาติ (FCI) มีสต็อกข้าวประมาณ 33.15 ล้านตัน และมีอีกประมาณ 20 ล้านตัน ที่จะรับมาจากโรงสี ซึ่งสวนทางกับปริมาณสต็อกขั้นต่ำที่รัฐบาลกำหนดไว้เป็นบรรทัดฐาน (a buffer norm) ที่ระดับ 13.58 ล้านตัน ณ เดือนเมษายน2565
และล่าสุด รัฐบาลอินเดียมีคำสั่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พ.ค.) สั่งห้ามการส่งออกข้าวสาลี โดยให้มีผลบังคับใช้ทันที หลังจากที่สต็อกข้าวสาลีในประเทศเริ่มส่อปัญหาขาดแคลน
รายงานข่าวระบุว่า อินเดียในฐานะชาติผู้ผลิตข้าวสาลีรายใหญ่อันดับสองของโลก พยายามที่จะควบคุมราคาข้าวสาลีภายในประเทศหลังสต็อกข้าวสาลีเริ่มได้รับผลกระทบ รัฐบาลอินเดียระบุว่า การขนส่งข้าวสาลีจะได้รับอนุญาตเฉพาะที่มีการออกหนังสือรับรองการชำระเงินโดยธนาคาร (letters of credit – L/C) แล้วเท่านั้น
นับตั้งแต่สงครามยูเครนปะทุ บรรดาผู้ซื้อข้าวสาลีทั่วโลกได้แห่มาซื้อข้าวสาลีจากอินเดีย หลังจากที่การส่งออกข้าวสาลีจากภูมิภาคทะเลดำลดลงตั้งแต่รัสเซียบุกโจมตียูเครน จนส่งผลให้ราคาข้าวสาลีตลอดจนผลิตภัณฑ์จากข้าวสาลีในอินเดียพุ่งสูงถึง 15-20% เพียงไม่นานหลังสงครามรัสเซียยูเครนปะทุ เช่นเดียวกับราคาข้าวสาลีในตลาดโลกพุ่งสูงสุดในรอบ 14 ปี ซึ่งไม่เพียงแต่จะกระทบต่อปัจจัยต้นทุนราคาอาหารแล้ว การห้ามส่งออกข้าวสาลีของอินเดียคาดว่าจะกระทบต่อต้นราคาอาหารสัตว์ให้มีแนวโน้มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
ประเทศที่มีผลกระทบหนัก เพราะนำเข้าข้าวสาลีจากอินเดียเป็นจำนวนมาก มีดังนี้
1. ซาอุดีอาระเบีย มูลค่าประมาณ 35,200 ล้านบาท
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มูลค่าประมาณ 11,600 ล้านบาท
3. บังกลาเทศ มูลค่าประมาณ 11,500 ล้านบาท
4. เยเมน มูลค่าประมาณ 10,700 ล้านบาท
5. สหรัฐอเมริกา มูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท
อินเดียถือเป็นชาติล่าสุดที่บังคับใช้มาตรการห้ามส่งออกอาหาร ในขณะที่ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซียห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภค ประเทศคาซัคสถานห้ามส่งออกข้าวสาลีและแป้งข้าวสาลี
ส่วนสถานการณ์ข้าวไทยล่าสุด มีทิศทางที่ดีขึ้น รวมไปถึงข้าวโพดที่ราคาวันนี้ขยับขึ้นตามกันมาติดๆ