พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานผ้าพระกฐินให้กรมปศุสัตว์ ตามที่ขอพระราชทาน เพื่อน้อมนําไปถวายพระสงฆ์จําพรรษากาลถ้วนไตรมาส ณ วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร ตําบลในเวียง อําเภอเมืองจังหวัดแพร่ ในวันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2565
โดยมีนายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม ทั้งนี้ ยอดถวายผ้าพระกฐินพระราชทานเป็นจํานวนทั้งสิ้น 3,121,142.05 บาท พร้อมมอบเงินบํารุงสถานศึกษา 6 แห่ง คือโรงเรียนพุทธโกศัยวิทยาวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยวิทยาเขตแพร่ โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม-บาลีวัดพระบาทมิ่งเมือง วรวิหาร โรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร โรงเรียนพิริยาลัยจังหวัดแพร่ และ โรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่
กฐินพระราชทาน เป็นกฐินที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานผ้าพระกฐินและบริวารกฐิน ซึ่งเป็นของหลวงให้ส่วนราชการ กระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ ตลอดจนคณะบุคคลที่สมควรขอพระราชทานอัญเชิญไป ถวายยังพระอารามหลวงต่าง ๆ
นอกจากพระอารามหลวงสําคัญ 18 พระอาราม ที่ทรงกําหนดไว้ว่าจะเสด็จพระราช ดําเนินด้วยพระองค์เองหรือจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์หรือองคมนตรี หรือผู้ที่ทรง เห็นสมควรเป็นผู้แทนพระองค์ไปถวาย โดยกรมปศุสัตว์ได้ถวายผ้าพระกฐินพระราชทานอย่างต่อเนื่องเป็นประจําทุกปีเนื่องจากเป็นประเพณีที่พุทธศาสนิกชนได้ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน เพื่อเป็นการอุปถัมภ์พระสงฆ์ ที่จําพรรษาครบถ้วนไตรมาสให้ได้รับอานิสงส์ตามพระวินัย และเป็นทุนในการบูรณปฏิสังขรณ์พระอาราม โดยเป็น การรวมพลังแห่งความสามัคคีทั้งทางกาย วาจา และจิตใจในการสร้างบุญกุศล สร้างความสุขของการอยู่ร่วมกัน ในสังคม รวมทั้งเป็นการจรรโลงและส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้มั่นคงดํารงอยู่เจริญวัฒนาสถาพรสืบไป
วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ 16 ถนนเจริญเมือง ตําบลในเวียง อําเภอเมือง จังหวัดแพร่ ได้รับพระ กรุณาโปรดเกล้าฯ พระบรมราชานุญาต ให้ยกฐานะจากวัดราษฎร์ ให้เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรีชนิดวรวิหาร เมื่อ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2489 ปัจจุบันมี พระราชเขมากร, รองศาสตราจารย์ ดร.ประยุทธ ภูริตตฺโต (นามสกุล วงศ์ยศ) เป็นเจ้าอาวาส วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหารและเจ้าคณะจังหวัดแพร่ วัดพระบาทมิ่งเมืองมาจากสองวัดรวมกัน ได้แก่ วัดพระบาท และวัดมิ่งเมือง ตั้งอยู่ห่างกันเพียงมีถนนกั้นเท่านั้น วัดพระบาทเป็นวัดของอุปราชหรือเจ้าหน้าหอ
ส่วนวัดมิ่งเมืองเป็นวัดของเจ้าผู้ครองนครแพร่ เมื่อเมืองแพร่ล้มเลิกระบบเจ้าผู้ครองนคร วัดทั้งสองก็ถูกทอดทิ้งอยู่ในสภาพ ทรุดโทรม กระทั่งคณะกรรมการจังหวัดเห็นสมควรรวมสองวัดเข้าด้วยกัน ให้ชื่อว่า วัดพระบาทมิ่งเมือง มาจนทุกวัน ปัจจุบันวัดนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธโกศัยศิริชัยมหาศากยมุนี พระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแพร่และยังมีพระเจดีย์มิ่งเมือง ซึ่งเป็นเจดีย์เก่าแก่มีรอย พระพุทธบาทจําลองอยู่ภายใน อีกทั้งวัดนี้ยังเป็นที่ตั้งของมูลนิธิยาขอบอนุสรณ์เพื่อระลึกถึง “ยาขอบ” หรือ นายโชติ แพร่พันธุ์ นักเขียนผู้ล่วงลับไปแล้วซึ่งเป็นทายาทเจ้าเมืองแพร่คนสุดท้าย