ตำรวจไซเบอร์ รวบเพิ่มอีก 2 ใน 5 ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับ เครือข่ายคดีหลอกลงทุน Turtle Farm บุกบ้านพักหรูคลองสามวา ที่ตั้งธุรกิจทำประชาสัมพันธ์ ตรวจยึดของกลางกว่า 100 ล้านบาท หลังสืบพบความเกี่ยวโยง หลอกลวงประชาชน
วันที่ 15 กันยายน 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมนายตำรวจระดับสูง จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) กองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงการขยายผลทลายเครือข่ายหลอกลงทุน Turtle Farm
จากพฤติการณ์ หลอกลวงชักชวนประชาชนให้ร่วมลงทุนปลูกเห็ด กัญชา พืชกระท่อม เลี้ยงผึ้ง ฯลฯโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยอ้างว่าผู้ที่เข้าร่วมลงทุนจะได้ผลตอบแทนเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในเวลาต่อมา ผู้ต้องหากับพวก อ้างเหตุขัดข้องต่างๆ ที่ไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เสียหายได้ จนมีการแจ้งความ รวบรวมพยาน หลักฐาน ออกหมายจับผู้ต้องหา 9 ราย รวบตัวได้ 4 ราย อยู่ระหว่างหลบหนี 5 ราย รวมถึงการอายัดทรัพย์สินบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกว่า 72 บัญชี อายัดเงินได้กว่า 17.5 ล้านบาท เมื่อช่วงเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมา
ต่อมาในช่วงเดือนเดียวกัน ตำรวจไซเบอร์ สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้เพิ่มเติมอีก 2 รายรวมจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย อยู่ระหว่างหลบหนี 3 ราย
จากการสืบสวนทำให้ทราบว่า บริษัท พี เอ็น ดิจิทัล มาเก็ตติ้ง ออนไลน์ จำกัด มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับบริษัท ไมน์นิ่งมายน์ เอ็กซ์ จำกัด และ หจก. สถานีหลักสี่ ของกลุ่มผู้ต้องหา โดยถูกว่าจ้างให้ทำการโฆษณา สร้างภาพลักษณ์ สร้างความน่าเชื่อถือ หลอกลวงประชาชนให้มาร่วมลงทุน โดยได้รับเงินจากกลุ่มผู้ต้องหากว่า 72 ครั้ง รวมเป็นเงิน 134 ล้านบาท
พนักงานสอบสวนจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญามีนบุรีขออนุมัติศาลออกหมายค้นสถานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2 จุด คือ
1.บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ตรวจยึดของกลาง 57 รายการ เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์, สมุดบัญชีธนาคาร, บัตรกดเงินอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องประดับทองคำ, นาฬิกา, โฉนดที่ดิน และเงินสด จำนวน 10.6 ล้านบาท
2.บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงคลองสามวา เขตสามวาตะวันตก กรุงเทพฯ ตรวจยึดของกลาง ตู้นิรภัยบรรจุเงินสด จำนวน 88 ล้านบาท รถยนต์ ยี่ห้อ ปอร์เช่ (Porsche) สีส้ม รุ่น Boxster PDK 1 คัน รวมผลการตรวจค้น ทั้ง 2 จุด ตรวจยึดของกลางกว่า 56 รายการ เงินสดรวม 98.6 ล้านบาท
ปัจจุบัน มีผู้เสียหายแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ที่เว็บไซต์ thaipoliceonline.com กว่า2,702 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 1,650 ล้านบาท
สำหรับผู้ต้องหาที่หลบไปนอกราชอาณาจักร พงส.ได้ทำหนังสือติดตามแหล่งที่อยู่ของผู้ต้องหาเพื่อประกอบคำร้องขอเป็นผู้ร้ายข้ามแดน และคำร้องขอออกหมายตำรวจสากลสีแดง (INTERPOL Red Notice) ไปยังกองการต่างประเทศ แล้วส่วนหนึ่ง ซึ่งจะได้ติดตามประสานงานนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ การปฏิบัติการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. ยังคงมุ่งเน้นที่จะสนองนโยบายของรัฐบาล เร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม คำนึงถึงความเดือดร้อน และอำนวยความยุติธรรมของประชาชนเป็นสำคัญ