“อลงกรณ์” เร่งเครื่อง “เพชรบุรีโมเดล-เมืองสร้างสรรค์อาหาร” ทุกมิติ เดินหน้าเร็วโครงการเกษตรปลอดภัย อาหารปลอดภัยมอบ “เกษตรฯ” ส่งเสริมทุกอำเภอ “มกอช.” ทำไวได้จริง เปิดตัวร้านอาหาร Q ที่เพชรบุรีแห่งแรก ผู้ประกอบการแฮปปี้ ผู้บริโภคพอใจ พร้อมหนุนเกษตรปลอดภัย ใช้สินค้า Q
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า การขับเคลื่อน“เพชรบุรี โมเดล” เป็นต้นแบบการปฏิรูปเมืองในทุกมิติมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะมิติการยกระดับศักยภาพจังหวัดในฐานะที่องค์การยูเนสโก (UNESCO) ขององค์การสหประชาชาติคัดเลือกให้เป็น “เมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร” (City of Gastronomy) และเพชรบุรีเป็นเมืองท่องเที่ยวและเมืองเกษตร จำเป็นต้องเชื่อมโยงการพัฒนาภาคเกษตรภาคอาหารและผู้ประกอบการภายใต้นโยบาย“มาตรฐานเกษตรปลอดภัย อาหารปลอดภัย” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยส่งเสริมให้ร้านอาหารใช้มาตรฐานเกษตรปลอดภัยหรือตรา Q(Quality) เพื่อสร้างความมั่นใจของลูกค้าและความปลอดภัยของผู้บริโภค ล่าสุดทางสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ได้ดำเนินการคิกออฟโครงการร้านอาหาร Q ที่เพชรบุรีเป็นแห่งแรก และมอบหมายให้ขยายโครงการให้ครบทุกอำเภอ ๆละ 1 แห่ง เป็นอย่างน้อย โดยร่วมมือกับจังหวัดเพชรบุรี หอการค้าจังหวัด สมาคมท่องเที่ยวและสถาบันเกษตรกรแบบบูรณาการทำงานเขิงรุกทุกภาคส่วนภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ทางด้านนายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทรนด์อาหารสุขภาพกำลังเป็นที่นิยมทั่วโลก เพราะผู้คนใส่ใจกับสุขภาพเพิ่มมากขึ้นทำให้ความต้องการสินค้าปลอดภัยเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ร้านอาหารเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย (สินค้า Q) เพื่อเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหาร และเพื่อให้ผู้บริโภคจำนวนมากที่อาจไม่มั่นใจว่าร้านอาหารที่รู้จักและมีรสชาติอร่อยนั้น มีร้านใดบ้างที่ใช้วัตถุดิบที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัยต่อผู้บริโภค จึงเป็นที่มาของโครงการร้านอาหารวัตถุดิบปลอดภัย เลือกใช้สินค้า Q หรือ Q Restaurant
ซึ่งที่ผ่านมา มกอช. ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งจากผู้ประกอบการร้านอาหารหลายๆ ร้านจากทั่วประเทศ ที่สมัครเข้าร่วมโครงการ Q Restaurant และจากสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด ที่เป็นเจ้าภาพหลักในการขับเคลื่อนโครงการ Q Restaurant ในระดับภูมิภาค ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้มีแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค
สำหรับร้านอาหารที่จะเข้าร่วมโครงการ Q Restaurant ต้องมีคุณสมบัติหลักๆ คือ มีสุขลักษณะเบื้องต้นที่ดี วัตถุดิบหลักที่ใช้ประกอบอาหารต้องเป็นสินค้า Q หรือเป็นสินค้าที่ผ่านการตรวจรับรอง หรือเป็นสินค้าที่ผู้ผลิตรับรองตนเอง โดยผ่านการตรวจสอบสารพิษตกค้างจากเจ้าหน้าที่ และต้องมีเมนูอาหารที่ใช้วัตถุดิบหลักที่ปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ หรือเป็นสินค้าที่ผ่านการตรวจรับรองไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของแต่ละวัตถุดิบที่ขอการรับรอง โดยปัจจุบันมีร้าน Q Restaurant ที่คงสถานะการรับรอง 3,022 แห่ง/สาขาทั่วประเทศ
นอกจากนี้ มกอช. ยังได้ร่วมกับสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด ยกระดับร้าน Q Restaurant ให้เป็นร้านอาหาร Q Restaurant ระดับพรีเมี่ยม (Q Restaurant Premium) ซึ่งร้านที่จะได้รับการรับรองให้เป็นระดับพรีเมี่ยม ต้องมีคุณสมบัติ คือ
1) เป็นร้านที่คงสถานะเป็น Q Restaurant ไม่น้อยกว่า 1 ปีงบประมาณ
2) มีผลการประเมินคะแนนตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขการตรวจรับรอง Q restaurant ในทุกหมวด ไม่น้อยกว่า 90%
และ 3) ร้านต้องใช้วัตถุดิบสินค้า Q โดยร้านอาหารหลายเมนู จะต้องใช้วัตถุดิบสินค้า Q ในร้านไม่น้อยกว่า 10 ชนิดขึ้นไป และใช้วัตถุดิบอื่นๆ ในร้านที่เป็นวัตถุดิบปลอดภัย ส่วนร้านอาหารจานเดียว จะต้องใช้วัตถุดิบหลักในเมนูนั้นๆ เป็นสินค้า Q จำนวน 1 ชนิดขึ้นไป และใช้วัตถุดิบอื่นๆ ที่เป็นส่วนประกอบในเมนูนั้นๆ เป็นวัตถุดิบปลอดภัย
โดยปัจจุบันได้ให้การรับรอง Q Restaurant Premium รวมทั้งสิ้น 32 ร้าน ในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ชัยภูมิ เพชรบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยาพิษณุโลก นครสวรรค์ พัทลุง และกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ จังหวัดเพชรบุรีถือเป็นหนึ่งในจังหวัดเป้าหมายที่ มกอช.ได้ให้ความสำคัญในการยกระดับร้านอาหารเข้าสู่โครงการ Q Restaurant เนื่องจากองค์การยูเนสโก(UNESCO) ได้ประกาศให้จังหวัดเพชรบุรี เป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร ประจำปี 2564 ซึ่งนับเป็นเมืองที่ 5 ในประเทศไทย ที่ได้รับการประกาศเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์
โดย มกอช. ได้เข้าไปตรวจสอบรับรองและยกระดับร้านอาหาร “สวนเพชรริเวอร์วิว รีสอร์ท” จังหวัดเพชรบุรี ให้เป็นร้านอาหาร Q Restaurant ระดับพรีเมี่ยม ซึ่งทางร้านมีการใช้วัตถุดิบที่ได้รับการรับรองเป็นสินค้า Q ในร้าน จำนวนกว่า 40 ชนิด โดยมีเมนูอาหารตามสั่งที่ใช้วัตถุดิบที่ได้รับการรับรองเป็นส่วนประกอบหลัก เช่น ยำผักกูดกุ้งสด ส้มตำผักหวาน ผัดคะน้าแม็กซิโก ต้มจืดจิงจูฉ่ายหมูสับ สลัดกุ้งทอด ยำใบชะพลู ผัดวอเตอร์เครสน้ำมันหอย เป็นต้น
นายสายยัณต์ สิทธิโชคธรรม เจ้าของร้านสวนเพชรริเวอร์วิว รีสอร์ท เปิดเผยว่า ตนมีความสนใจในเรื่องของเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ ซึ่งโครงการ Q Restaurant ตอบโจทย์ถึงแหล่งกำเนิดของอาหารปลอดภัย จึงสนใจเข้าร่วมโครงการและพัฒนาร้านจนได้เป็นร้าน Q Restaurant ระดับพรีเมี่ยม โดยทางร้านมีการใช้วัตถุดิบในการประกอบอาหารที่ได้รับการรับรองมาตรฐานและใช้ผักที่เป็น Organic ปลอดสารพิษจากสวนเกษตรอินทรีย์ ที่รับรองโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ถึงเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร และนอกจากมีความโดดเด่นด้านอาหารแล้ว ที่ร้านยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรครบวงจร ที่มีสวนเกษตรอินทรีย์และสวนผสมผสานมากกว่า 100 ไร่ อีกด้วย
“ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ประชาชนมีการปรับรูปแบบการดำเนินชีวิตแบบ New Normal ที่มีการดูแลและใส่ใจสุขภาพทั้งของตนเองและคนรอบข้าง รวมถึงการเลือกรับประทานอาหารนอกบ้านที่ต้องมีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ดังนั้น Q Restaurant จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในเรื่องความปลอดภัยอาหาร นอกจากนี้ยังเป็นการประชาสัมพันธ์การใช้วัตถุดิบปลอดภัยในร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดขายของร้าน ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพอาหาร รวมทั้งยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรในการยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรโดยนำส่งวัตถุดิบปลอดภัยให้แก่ร้านอาหาร ซึ่งนับเป็นการส่งเสริมและผลักดันการนำมาตรฐานไปสู่การปฏิบัติตลอดห่วงโซ่การผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ” เลขาธิการ มกอช. กล่าว