กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหามวลชน เพื่อพิจารณากรณีกลุ่มสมัชชาเกษตรกรอีสาน และกลุ่มสมาพันธ์เกษตรกรอีสาน เรียกร้องให้จัดสรรที่ดินแปลงอพยพ หรือจ่ายค่าชดเชยพิเศษ แทนค่าที่ดินให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนราษีไศล จ.สุรินทร์ เป็นโครงการนำร่อง
นายธนา ชีรวินิจ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจาก ดร.เฉลิมชัยศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรละสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของมวลชน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครั้งที่ 2/2565 โดยมีนายประยูร อินสกุล รองปลัดกระทรวงเกษตรละสหกรณ์ นายธิติ โลหะปิยพรรณ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้แทนภาคประชาชน เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 135 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผ่านระบบทางไกลออนไลน์ (Zoom)
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา กรณีกลุ่มสมัชชาเกษตรกรภาคอีสาน และกลุ่มสมาพันธ์เกษตรกรอีสานและกลุ่มอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการขอรับสิทธิการจัดสรรที่ดินแปลงอพยพ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนราษีไศล จ.สุรินทร์ โดยที่ประชุมมีมติแนวทางการดำเนินการ ดังนี้
1. รับทราบและเห็นชอบในหลักการการจัดสรรที่ดินแปลงอพยพเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนราษีไศล จ.สุรินทร์ ตามที่คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีราษฎรขอรับสิทธิการจัดสรรที่ดินแปลงอพยพเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนราษีไศล จ.สุรินทร์ นำเสนอ และกรณีที่ทางราชการไม่สามารถจัดหาที่ดินแห่งใหม่ให้เข้าอยู่อาศัยและทำกินได้ตามข้อ 1 ขอให้จ่ายเงินชดเชยค่าที่ดินเป็นกรณีพิเศษ แก่ผู้มีสิทธิ ในอัตราไร่ละ 80,800 บาท
2. มอบหมายกรมชลประทาน แจ้งยืนยันขนาดของโครงการเขื่อนราษีไศล ว่าเป็นโครงการประเภทใด(ขนาดใหญ่ หรือขนาดกลาง) เพื่อให้มีความชัดเจนในการพิจารณา ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
3. มอบฝ่ายเลขานุการประสานคณะทำงานชุดอื่น ๆ ได้แก่ คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ จ.ศรีษะเกษจ.ร้อยเอ็ด และคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ จ.สุรินทร์ ของกลุ่มเกษตรกรฝายราษีไศล กลุ่มสมาพันธ์แม่มูลยั่งยืน กลุ่มพัฒนาเขื่อนราษีไศล และกลุ่มอิสระ เพื่อนำเสนอแนวทางดังกล่าวข้างต้น ตลอดจนมติที่ประชุมในครั้งนี้ ให้ได้รับทราบ
และ 4. ให้นำข้อเรียกร้องของกลุ่มสมัชชาเกษตรกรภาคอีสาน และกลุ่มสมาพันธ์เกษตรกรอีสาน และความเห็นของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของมวลชนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในครั้งนี้เสนอคณะกรรมการกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของมวลชน เพื่อทราบและพิจารณาต่อไป