นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมากรมประมงนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาพัฒนาและปรับใช้กับการทำประมงของเกษตรกร ชาวประมงไทย เพื่อเสริมศักยภาพชาวประมงและสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประเทศไทย ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเฉพาะระบบติดตามเรือ (Vessel Monitoring System; VMS) ซึ่งเป็นระบบที่ทั่วโลกและองค์การบริหารจัดการประมงระดับภูมิภาค (RFMOs) ให้การยอมรับว่ามีประสิทธิภาพในการติดตามเรือ หรือการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในทะเล และมีการบังคับใช้อย่างแพร่หลายเพื่อป้องกันยับยั้งและขจัดการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม หรือ IUU Fishing โดยระบบสามารถแสดงข้อมูลเส้นทางการเดินเรือ (VMS tracking) สามารถนำไปวิเคราะห์ประกอบกับข้อมูลอื่น ๆ เช่น สัตว์น้ำที่จับได้ในสมุดบันทึกการทำการประมง (Fishing Log Book) ชนิดและปริมาณสัตว์น้ำขึ้นท่าได้
อย่างไรก็ตาม การกำหนดให้เจ้าของเรือประมงต้องติดตั้งระบบติดตามเรือประมง และดูแลรักษาระบบดังกล่าว ให้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา ทำให้เจ้าของเรือประมงต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าว และเสียค่าบริการรายเดือน โดยเมื่อพิจารณาเฉพาะเรือประมงพาณิชย์ จำนวน 4,787 ลำ และเรือขนถ่ายสัตว์น้ำในน่านน้ำไทย จำนวน 31 ลำ พบว่าติดตั้งอุปกรณ์ VMS รุ่นที่ 1 จำนวน 4,318 ลำ และติดตั้งอุปกรณ์ VMS รุ่นที่ 2 จำนวน 500 ลำ ค่าบริการรายเดือนอยู่ในช่วง 1,283.3 – 2,889.0 บาท/ลำ/เดือน นอกจากนี้ ชาวประมงยังมีภาระต้นทุนในการทำการประมงที่สำคัญ ได้แก่ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าจ้างผู้ควบคุมเรือ คนประจำเรือ ค่าเครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำการประมงและการเก็บรักษาสัตว์น้ำ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก ประกอบกับในปัจจุบัน ชาวประมงได้ประสบปัญหาในการประกอบอาชีพทั้งต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น การขาดแคลนแรงงาน ปัญหาราคาสินค้าสัตว์น้ำลดลง ทำให้ชาวประมงได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพเป็นอย่างมาก นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่กำกับดูแลกรมประมง เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้มีนโยบายสำคัญในการช่วยเหลือเจ้าของเรือประมง ผ่าน “โครงการประมงรวมใจ จ่ายระบบติดตามเรือประมงไทย (VMS) คนละครึ่ง” ซึ่งได้รับมติเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ และได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จากสำนักงบประมาณ
สำหรับ “โครงการประมงรวมใจ จ่ายระบบติดตามเรือประมงไทย (VMS) คนละครึ่ง” เป็นการจ่ายเงินอุดหนุนค่าบริการระบบติดตามเรือประมง เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายของชาวประมงจากมาตรการที่ออกโดยรัฐ โดยสนับสนุนเงินร้อยละ 50 ของค่าบริการระบบติดตามเรือประมงรายเดือน สนับสนุนไม่เกิน 9 เดือน และโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้เข้าร่วมโครงการโดยตรง มีระยะเวลาดำเนินโครงการฯ ตั้งแต่ มกราคม – กันยายน 2568 และเจ้าของเรือที่ต้องการรับสิทธิสามารถขอขึ้นทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน – 23 พฤษภาคม 2568 ผ่านทาง Application Fisheries Next โดยดาวน์โหลด Application และสมัครเข้าใช้งาน เลือกเมนู แซทบอร์ด พิมพ์ข้อความเพื่อประสงค์เข้าร่วมโครงการ เช่น “ยืนยันเข้าร่วมโครงการประมงรวมใจ จ่าย VMS คนละครึ่ง” หรือขึ้นทะเบียนด้วยตนเองได้ที่ กองบริหารจัดการเรือประมงและการทำการประมง กรมประมง หรือ ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออก หรือ สำนักงานประมงจังหวัดในท้องที่ที่มีอาณาเขตติดทะเล โดยผู้ขอรับสิทธิต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ที่ยังไม่สิ้นอายุหรือถูกเพิกถอน หรือเป็นผู้ได้รับการจดทะเบียนเป็นเรือขนถ่ายสัตว์น้ำที่ยังไม่ถูกเพิกถอน และขอขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการตามระเบียบที่กรมประมงกำหนด
ทั้งนี้ กรมประมงจะประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการฯ ณ ศูนย์ PIPO และสำนักงานประมงจังหวัดในวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 หากไม่มีรายชื่อ หรือจำนวนสิทธิไม่ถูกต้อง สามารถยื่นอุทธรณ์สิทธิได้ ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2568 (7 วัน) ณ กองบริหารจัดการเรือประมงและการทำการประมง กรมประมง หมายเลขโทรศัพท์ 0 2561 3132
