ปลัดกระทรวงเกษตรฯ เร่งแก้ปัญหาน้ำนมดิบล้นตลาด ประสานอสค. บริษัทไทยมิลค์ และสหกรณ์โคนมหนองโพ รับซื้อน้ำนมส่วนเกินไปแปรรูปเป็นนมกล่อง เพื่อเตรียมแจกจ่ายนักเรียนในโครงการนมโรงเรียน พร้อมระบุสาเหตุหลักมาจากเทคโนโลยีการเลี้ยงโคนมส่งผลให้ผลผลิตน้ำนมต่อตัวเพิ่มขึ้น
นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่าปริมาณน้ำนมดิบในระบบมีการล้นตลาดเฉลี่ยวันละ 30–40 ตัน จากกว่า 10 สหกรณ์โคนมทั่วประเทศ กระทรวงเกษตรฯ จึงได้ประสานความร่วมมือกับองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อสค.) บริษัทไทยมิลค์ และสหกรณ์โคนมหนองโพ เข้ารับซื้อน้ำนมส่วนเกินทั้งหมด เพื่อนำไปแปรรูปเป็นนมกล่องส่งมอบให้กับโครงการนมโรงเรียนในช่วงเปิดภาคเรียนที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ สาเหตุของการเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำนมดิบมาจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีการเลี้ยงโคนม โดยกรมปศุสัตว์ได้ส่งเสริมการใช้อาหารสัตว์แบบหมัก (Corn silage) ที่ผลิตจากต้นข้าวโพดและฝักอ่อนข้าวโพด รวมถึงการดูแลสุขภาพโคด้วยวัคซีน ส่งผลให้เต้านมไม่อักเสบ แม่โคมีสุขภาพดี ผลิตน้ำนมได้มากขึ้น จากเดิมเฉลี่ย 12–13 กิโลกรัมต่อตัวต่อวัน เพิ่มเป็น 15–16 กิโลกรัม
นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือระหว่างกรมปศุสัตว์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และภาคเอกชน ในการพัฒนาสายพันธุ์โคที่สามารถรีดนมได้ในระยะเวลาเพียง 6 เดือนหลังคลอด จากเดิมที่ต้องใช้เวลาราว 12 เดือน ทำให้ผลผลิตน้ำนมรวมในระบบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายประยูรบอกด้วยว่า กระทรวงเกษตรฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมเร่งบรรเทาผลกระทบแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์นี้ ได้ประสานให้นำน้ำนมส่วนเกินไปแปรรูปเป็นนมกล่อง เพื่อเข้าสู่ระบบโครงการนมโรงเรียนทันทีที่เปิดภาคเรียนด้วย