“นภินทร”เผยเดินทางเยือนจีน ผลักดันทุเรียนส่งออก ร้องขอศุลกากรจีน ลดขั้นตอนการตรวจสอบสาร BY2-แคดเมียม เหลือ 30 % จาก 100 % ชี้ จากการตรวจสอบทุเรียนไทยปลอดภัย มั่นใจปีนี้ระบาย ‘ทุเรียน’ เพิ่ม

S 2711663 0 scaled

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย เปิดเผยถึงการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐประชาชนจีนในมณฑลยูนนาน และมณฑลหูหนาน เพื่อหารือสร้างความมั่นใจให้กับผลผลิตทุเรียนไทย ว่า ผลผลิตทุเรียนในปี 2568 มีปริมาณเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 37 จากปีที่ผ่านมากว่า 1.2ล้านตัน ปัจจุบันอยู่กว่า 1.7 ล้านตัน เนื่องจากการเพาะปลูกที่เพิ่มขึ้น และผลผลิตที่ออกมาดีขึ้น โดยในปีที่แล้วประเทศไทยบริโภคภายในประเทศ ประมาณ 2.8 แสนตัน ส่งออกต่างประเทศ 800,000 ตัน โดยการส่งออกไปยังต่างประเทศ ร้อยละ 97 เป็นการส่งออกไปยังประเทศจีน ในปีนี้มีปริมาณเพิ่มขึ้นอีก 5 แสนตัน สิ่งแรกคือ การขยายตลาดบริโภคในประเทศ ให้เพิ่มขึ้นเป็น 4 แสนตัน 

202504018c452c scaled


202504010978460ad9cf6e6af85de4b8dd130666130831 scaled

ส่วนการส่งออกในปีนี้น่าจะอยู่ประมาณ 1,300,000 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 400,000 ตัน ดังนั้นการส่งออกที่สำคัญคือการส่งออกไปยังประเทศจีน โดยกระทรวงพาณิชย์ได้พยายามประสานตลาดในจีน ทั้งการจัดงานส่งเสริมตลาด การจับคู่ธุรกิจการค้า รวมถึงการจัดกิจกรรมต่างๆซึ่งผู้ประกอบการจีนก็ให้ความสนใจจัดซื้อทุเรียนเพิ่มขึ้น โดยจากการพบปะผู้ประกอบการของจีนก็ให้ความมั่นใจว่าจะซื้อทุเรียนของไทยเพิ่มขึ้น บางรายเคยนำเข้าปีที่ผ่านมา 800 ตู้ ปีนี้จะนำเข้า 1,200 ตู้ ดังนั้นมั่นใจว่าตลาดทุเรียนที่เพิ่มขึ้น จะสามารถระบายออกต่างประเทศได้

ทุ scaled

ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีความกังวล ปัญหาระยะเวลาการนำเข้าทุเรียน เพราะจีนมีเงื่อนไขที่เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ซึ่งจากเดิมมีการส่งตรวจสินค้านำเข้า ประมาณร้อยละ 30 ของจำนวนที่นำเข้า แต่ในปีนี้ กำหนดเงื่อนไขเพิ่มขึ้น สำหรับการนำเข้าทุเรียนจากประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ทุเรียนทุกตู้จะต้องตรวจรับรับรองจาก ห้อง lab ตามที่กรมวิชาการเกษตรส่งข้อมูลให้ทางการจีนรับรอง โดยมีการตรวจสาร BY2  และสารแคดเมียม และต้องมีการรับรอง 100%  เมื่อถึงด่านแล้วไม่ว่าจะเป็นด่านโม่ฮาน ด่านโหยวอี้กวนก็ดี เข้าสู่ประเทศจีน ก็จะมีการตรวจซ้ำอีก 100% และนี่คือสภาพปัญหา ดังนั้นส่งผลให้การขนส่งติดขัด ซึ่งปัจจุบันนี้ใช้เวลาถึงแปดวัน ซึ่งเป็นข้อกังวลของผู้ประกอบการ เพราะ กังวลว่าในช่วงเวลาที่ทุเรียนออกมามาก การตรวจสอบที่ด่าน จะใช้เวลาค่อนข้างมากถึง 10 วันได้ เมื่อขนส่งจากประเทศไทย กว่าจะไปถึงตลาดก็ใช้เวลารวมถึง 20 วันได้ ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพที่ตกต่ำลงและไม่สามารถค้าขายได้ นี่คือสิ่งที่ผู้ประกอบการเป็นห่วง ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์ นอกจากจะพูดคุยในเรื่องการตลาดแล้ว ได้มีการหารือกับศุลกากรจีน ที่ด่านโม่ฮาน เบื้องต้นร้องขอให้มีการขยายระยะเวลาในการปิดด่านเพิ่มขึ้น ซึ่งทางศุลกากรจีนดังกล่าวยืนยันว่าจะมีการขยายเวลาให้ จากปิด 17.30 น. เป็น 20.30 น. และจะมีการเพิ่มคนและห้อง lab จาก 3 ห้องเป็น 5 ห้อง ทั้งหมดนี้คือการประสานงานเบื้องต้นแต่ทางกระทรวงพาณิชย์ก็ยังเป็นห่วงอยู่

ททท scaled

นายนภินทร ยังระบุว่า นอกจากนี้ยังพูดคุยกับศุลกากรจีนในหลายด่าน พบว่าทางการจีนตรวจสอบแล้ว ไม่พบสาร BY2 และสารแคคเมียม ดังนั้นจึงได้มีการร้องขอ ให้ทำความเห็นการตรวจสาร ส่งไปยังศุลกากรจีนที่ปักกิ่ง ที่เป็นรัฐบาลกลางที่มีความเห็นว่าการตรวจดังกล่าวควรจะลดลงจาก 100% เหลือ 30% ดังนั้นขอให้เชื่อมั่นในมาตรฐานของสินค้าไทย ซึ่งศุลกากรของจีนทั้งสี่จุด จะรีบทำความเห็นไปยังศุลกากรจีนณกรุงปักกิ่ง เพื่อให้มีการผ่อนปรนมาตรการดังกล่าว ถือเป็นการหารือในเบื้องต้น และ กระทรวงพาณิชย์มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ที่ประจำกรุงปักกิ่ง ติดตามเรื่องนี้ต่อไป

2025 scaled

ขณะเดียวกันก็จะมีการขอเข้าพบเพื่อหารือกับท่านเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย เพื่อให้มาตรการดังกล่าวขับเคลื่อนได้ รนระยะเวลาการส่งออก และเพิ่มปริมาณการส่งออกทุเรียน อย่างรวดเร็วและมีราคาที่ดี ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรขายทุเรียนได้เป็นอย่างดี ส่วนผลไม้ชนิดอื่นๆของไทย ประเทศจีนยังไม่ได้มีการกำหนดตรวจสารที่เพิ่มขึ้น คาดว่าเป็นไปตามระเบียบเดิมที่ต้องมีการสุ่มตรวจที่ร้อยละ 30 ดังนั้นมองว่าไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ แต่สิ่งสำคัญคือต้องแก้ไขการตรวจสารของทุเรียน พร้อมกันนี้ ตนเองได้ให้ความเชื่อมั่นว่า ประเทศไทย โดยกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ทำงานร่วมมือกันอย่างดี โดยสิ่งที่ทำคือ จะควบคุมคุณภาพทุเรียน 4 ไม่ 1.ไม่อ่อน มีมาตรฐานสินค้า 2. ไม่มีศัตรูพืช 3.ไม่มีสวมสิทธิ์เอาสินค้าประเทศอื่นไม่สวมสิทธิ์ผู้อื่น และ 4. ไม่มีสารตกค้าง ซึ่งจากการหารือทางจีนก็พอใจ

นอกจากนี้ นายนภินทร ระบุว่ามาตรการของไทยน่าจะสามารถผลผลิตทุเรียนของไทย ย้ำว่าจะมีการหารือเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนเพื่อไม่ให้กระทบกับทุเรียนในไทย เพราะถือเป็นการส่งออกพืชผลทางการเกษตรที่มีราคาเป็นอันดับหนึ่ง และคนจีนนิยมบริโภคทุเรียนจากไทย ซึ่งผู้ค้าในตลาดจีนบางบริษัท ระบุว่าจะรับไม่อั้น