พาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ร่วมกับ ปคบ. ติดตามจับกุมจำเลย ในคดีดัดแปลงเครื่องชั่งรถบรรทุก เอาเปรียบผู้ประกอบการ ศาลพิพากษาเมื่อปี 2565 ลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมชดใช้ค่าเสียหาย เป็นเงินจำนวน 174,768,000 บาท โดยจำเลยหลบหนี และพบกระทำผิดซ้ำโดยใช้เครื่องชั่งไม่มีเครื่องหมายรับรองในการชั่งรถบรรทุกรับซื้อข้าวเปลือกเกษตรกรที่น้ำหนักขาด 50 กิโลกรัม ถือว่าเป็นการโกงน้ำหนักเกษตรกรชาวนา คดีนี้ถือเป็นคดีใหญ่ที่จำเลยเอาเปรียบเกษตรกร และผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง จึงขอย้ำถึงโทษที่ผู้กระทำความผิดลักษณะนี้ หากพบจะมีการดำเนินคดีและได้รับโทษอาญาทันที
19 มีนาคม 2568 นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่าตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญในการกำกับดูแลมาตรฐานเครื่องชั่งตวงวัดและการคุ้มครองผู้บริโภค กรมการค้าภายในจึงได้บูรณาการการทำงานร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ในการตรวจสอบและดำเนินคดีกับกลุ่มขบวนการดัดแปลงเครื่องชั่งน้ำหนักรถบรรทุก เพื่อโกงน้ำหนักสินค้าที่ส่งมอบให้กับภาคเอกชน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง
นายวิทยากร กล่าวต่อว่า “โดยคดีนี้มีการตรวจสอบพบว่ามีกลุ่มขบวนการรวม 23 คนและ 1 นิติบุคคล ได้ทำการติดตั้งระบบรีโมทควบคุมน้ำหนักบนเครื่องชั่งรถยนต์ของ บริษัทผลิตเหล็กแหล่งหนึ่งในจังหวัดระยอง เพื่อแสดงน้ำหนักเหล็กที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ทำให้บริษัทได้รับความเสียหายกว่า 4,248 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 157,603,200 บาท ภายหลังการสืบสวนกรมการค้าภายในร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถนำไปสู่การดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่กระทำความผิด 1 ราย เป็นผู้ติดตั้งและควบคุมระบบรีโมทดังกล่าว ซึ่งได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 800,000 บาท และเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ศาลจังหวัดระยองมีคำพิพากษาให้จำคุกผู้ต้องหาดังกล่าวเป็นเวลา 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา พร้อมสั่งชดใช้ค่าเสียหายให้กับบริษัทดังกล่าวเป็นเงินจำนวน 174,768,000 บาท ซึ่งต่อมาผู้ต้องหาได้ขออุทธรณ์ แต่ในวันที่ 29 ธันวาคม 2565ผู้ต้องหาไม่เดินทางมารับฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลจึงออกหมายจับ
และเมื่อวันที่19 พฤศจิกายน 2567 นายตรวจชั่งตวงวัด ได้ตรวจสอบเครื่องชั่งรถยนต์ของลานรับซื้อข้าวเปลือกของบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดสระแก้ว พบว่าเครื่องชั่งไม่มีเครื่องหมายรับรอง จากการตรวจสอบความเที่ยงเทียบกับแบบมาตรา 10,000 กิโลกรัม เครื่องชั่งแสดงค่า 9,950 กิโลกรัมน้ำหนักขาด50 กิโลกรัม ผู้ดูแลเครื่องให้การว่าเป็นคนเดียวกับผู้ต้องหาที่มาเป็นผู้ซ่อมและทำลายเครื่องหมายรับรองและปรับแต่งน้ำหนักให้เครื่องชั่งแสดงค่าเกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด
ทั้งนี้จากการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง กรมการค้าภายในและตำรวจ ปคบ. พบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีไปพักอาศัยที่จังหวัดปราจีนบุรี โดยเจ้าหน้าที่ได้ติดตามเฝ้าสังเกตการณ์และสามารถจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 โดยเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายจับและควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี โดยเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ได้มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา พร้อมชดใช้ค่าเสียหายตามคำพิพากษา และนำตัวส่งเรือนจำกลางระยองทันที”
นายวิทยากร กล่าวเน้นย้ำว่า “กรมการค้าภายในให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการคุ้มครองผู้บริโภคและกำกับดูแลมาตรฐานเครื่องชั่งตวงวัดทั่วประเทศ โดยขอเตือนให้ตระหนักถึงโทษของการดัดแปลงหรือแก้ไขเครื่องชั่งตวงวัด ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายตาม พระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 พากพบว่ามีการดัดแปลงแก้ไขหรือโกงเครื่องชั่งเพื่อเอาเปรียบประชาชนจะมีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท ซึ่งหากตรวจพบการกระทำผิดจริงเจ้าหน้าที่จะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด สำหรับประชาชนพบเห็นการโกงเครื่องชั่งตวงวัดหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการค้า สามารถร้องเรียนได้ทางสายด่วนกรมการค้าภายใน1569 แอปพลิเคชั่น LINE @MR.DIT สำนักงานพาณิชย์จังหวัดหรือสำนักงานสาขาชั่งตวงวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ”