ข่าวรั่ว “รถดิน-แบ็กโฮ” แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ผวา สั่งเครือข่ายหยุด เพราะได้รับแจ้ง ป่าไม้และหน่วยอื่น จะลงตรวจ

หลังจากที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้ (พยัคฆ์ไพร) ตำรวจปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ตร.ปทส.) เปิดยุทธการพิทักษ์ผืนป้าภาคตะวันออก ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จับกุมพื้นที่ที่มีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ทั้งที่ อ.ขลุง จ.จันทบุรี ด้วยการเปิดป่า ปรับพื้นที่ทำสวนทุเรียนบนเขา และตัดไม้หวงห้าม ราวๆ 3-4 คดี เนื้อที่เกือบ 200 ไร่ และตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี จับกุมและยึดเครื่องจักรหนัก – รถบรรทุก ขณะทำการปรับพื้นที่ในเขตป่าสงวนฯ เขต อ.แก่งหางแมว

ล่าสุด มีรายงานว่า ผู้รับเหมาขุดดิน-ปรับพื้นที่ เริ่มกลัวการถูกจับกุม และได้มีการแจ้งข่าว กรณีที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และตำรวจจะลงตรวจพื้นที่ ผ่านหน้า เฟชบุ๊กว่า

“ขออนุญาตแจ้งข่าว คับ ท่านใด ที่กำลัง ขุดปรับพื้นที่ใน อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ที่กำลังเดินงานกันทุกๆ ชุด ทุกๆ ทีม ขอให้ หยุด และย้าย รถ แมคโคร และอุปกรณ์ทุกชนิด ย้ายออก หรือ เก็บ รถ ของพวกท่าน จอดให้สนิท หรือ ไม่ควร จอดหน้างาน นั้นๆ นะคับ เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป จะมีทางกรมการป่าไม้หลายชุด ลงในพื้นที่ อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ด่วนนะคับ ภาค ลง คับ ’

ข้อมูลจากแหล่งข่าวในพื้นที่อำเภอแก่งหางแมว จ.จันทบุรี ระบุว่า ขณะนี้กลุ่มทุนพยายามเข้าไปกว้านซื้อที่ในเขตอำเภอแก่งหางแมว เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าสงวนฯ และมีแนวโน้มที่อนุญาตให้ทำกิน ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างไกลชุมชน ไม่ค่อยมีหน่วยงานหรือมีการตรวจสอบมากนัก

ลักษณะของการกว้านซื้อที่ จะซื้อเป็นแปลง แปลงละไม่ต่ำกว่า 50 ไร่ เพื่อปรับทำสวนทุเรียน โดยนายหน้าหรือผู้มีส่วนได้เสียในชุมชนที่หาซื้อที่เสนอขายได้ จะได้รับการว่าจ้าง ให้มีการปรับพื้นที่ยกโคก ทำแปลงทุเรียนในอัตราไร่ละ 100,000 บาท

นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พื้นที่อำเภอแก่งหางแมว ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติฯ กำลังถูกปรับจากป่า และสวนยางพารา ให้มาเป็นสวนทุเรียน หลายพื้นที่

S 119947311