นายนวนิตย์ พลเคน อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวว่า “สำนักงานสถิติแห่งชาติได้คัดเลือกหน่วยงานที่มีผลงานโดดเด่นในการขับเคลื่อนบัญชีข้อมูลภาครัฐ “Government Data Catalog” โดยกรมหม่อนไหม ได้รับรางวัลหน่วยงานที่มีผลงานโดดเด่นด้านระบบบัญชีข้อมูลหน่วยงานยอดนิยม (Popular Agency Data Catalog) ระดับดีเด่น (Gold Award) มา 3 ปีต่อเนื่อง ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 2566 จนถึง 2567 ซึ่งเป็นรางวัลเชิดชูหน่วยงานที่มีความมุ่งมั่นในการจัดทำบัญชีข้อมูลภาครัฐ ให้ประเทศขับเคลื่อนไปสู่การเป็นรัฐบาลอัจฉริยะ (Smart & Open Government) โดยในส่วนของกรมหม่อนไหม ได้มีการจัดทำ “ระบบบัญชีข้อมูลกรมหม่อนไหม” ซึ่งมีการเชื่อมโยงกับระบบบัญชีข้อมูลกลางภาครัฐ (Government Data Catalog : GDC) โดยในปัจจุบันมีชุดข้อมูลเปิด เผยแพร่ในระบบบัญชีข้อมูลกรมหม่อนไหม จำนวนกว่า 200 ชุดข้อมูล และเผยแพร่ในระบบบัญชีข้อมูลกลางภาครัฐ จำนวน 67 ชุดข้อมูล ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน หรือประชาชนที่สนใจ สามารถนำข้อมูลที่เปิดเผยไปใช้ประโยชน์ได้”
โดยในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 นายนวนิตย์ พลเคน อธิบดีกรมหม่อนไหม มอบหมายให้นายวัชรพงษ์ แก้วหอม รองอธิบดีกรมหม่อนไหม เข้าร่วมพิธีมอบโล่รางวัล GD Catalog Award 2567 ซึ่งกรมหม่อนไหมได้รับคัดเลือกให้รับรางวัล“ระบบบัญชีข้อมูลหน่วยงานยอดนิยม ระดับดีเด่น (Gold Award)” ณ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 กรุงเทพมหานคร
นายวัชรพงษ์ แก้วหอม รองอธิบดีกรมหม่อนไหมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “สำหรับชุดข้อมูลของกรมหม่อนไหมที่มีผู้เข้าชมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) จำนวนใบรับรองตรานกยูงพระราชทาน 2) การตรวจกระบวนการผลิตผ้าไหมไทยตรานกยูงพระราชทาน 3) ผลการพิจารณาให้การรับรองผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน 4) ชนิดตรานกยูงพระราชทาน และ 5) ราคาจำหน่ายผ้าไหมไทยตรานกยูงพระราชทาน ทั้งนี้ กรมหม่อนไหมได้ให้ความสำคัญกับข้อมูลเปิดภาครัฐ ซึ่งสอดคล้องกับประเด็นกลยุทธ์การยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ของกรมหม่อนไหม ที่ต้องการยกระดับและพัฒนางานด้านหม่อนไหมให้มีคุณภาพ สามารถใช้ประโยชน์ในหน่วยงาน พร้อมทั้ง ช่วยอำนวยความสะดวกในการให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึงผ่านช่องทางดิจิทัล อีกทั้ง ยังเป็นการเปิดเผยข้อมูลตามกรอบธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐของกรมหม่อนไหม และสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการพัฒนางานบริการด้านหม่อนไหม เพื่อสามารถให้บริการเกษตรกรและประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” รองอธิบดีกล่าว
