รมว.เกษตรฯผลักดันบทบาทชาวประมงพื้นบ้านและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย สู่คลังความมั่นคงทางด้านอาหารแก่ประชากรโลกในงาน IYAFA 2022
วันอังคารที่ 2 สิงหาคม 2565 กรมประมง จัดงานเฉลิมฉลองปีสากลแห่งการทำประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำพื้นบ้าน ปี พ.ศ.2565 (International Year of Artisanal Fisheries and Aquaculture : IYAFA 2022) ผ่านระบบ Hybrid Meeting หนุนการทำประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำพื้นบ้าน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ซึ่งได้กล่าวถ้อยแถลงถึงความสำคัญของประเทศไทย ที่ได้ให้ความตระหนักถึงคุณค่าและบทบาทของพี่น้องชาวประมงพื้นบ้าน รวมถึงเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงและผู้แปรรูปสัตว์น้ำรายย่อย ซึ่งแม้จะเป็นขนาดเล็กแต่มีคุณค่ามหาศาล โดยเป็นรากฐานที่สำคัญต่อการสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารแก่ผู้คนทั่วโลก
นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดงานเฉลิมฉลองปีสากลแห่งการทำประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำพื้นบ้าน พ.ศ.2565(International Year of Artisanal Fisheries and Aquaculture) ว่าประเทศไทยในฐานะหนึ่งในสมาชิกขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ(Food and Agriculture Fisheries and Aquaculture of the United Nations : FAO) ได้ให้ความสำคัญกับกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านและผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำรายย่อยของประเทศไทย ซึ่งมีจำนวนกว่า 600,000 ราย สามารถผลิตสินค้าสัตว์น้ำเพื่อการบริโภค ได้มากกว่า 1 ล้านตันต่อปี
ซึ่งมีส่วนช่วยสนับสนุนการสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารให้แก่ประชากรของประเทศและประชากรโลกได้เป็นอย่างดี ดังนั้น เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันกับนานาประเทศทั่วโลก จึงจัดงานเฉลิมฉลองIYAYA 2022 ขึ้น ภายใต้ธีม “การประมงพื้นบ้าน ยกระดับความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” (Artisanal Fisheries and Aquaculture Toward Security, Prosperity, and Sustainability) เพื่อให้สาธารณชนได้ตระหนักถึงบทบาท และคุณค่าของชาวประมงพื้นบ้าน และผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำรายย่อยที่มีความสำคัญต่อการสร้างความมั่นคงทางอาหาร นำไปสู่การมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรประมงอย่างสมดุล พร้อมสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของประเทศไทยต่อไป
สำหรับงานเฉลิมฉลอง IYAFA 2022 นี้ กรมประมง ได้มีการจัดกิจกรรมเสวนา ภายใต้หัวข้อ “ความท้าทายและการประมงพื้นบ้านในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง” เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ความเชี่ยวชาญประสบการณ์ของผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายภาคส่วน ได้แก่ นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง นายสมเกียรติ สมรรถการ สมาคมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตราด นางอ้อมบุญ ทิพย์สุนาสมาคมเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนลุ่มน้ำโขง นายดำรง แดงโชติ สมาคมประมงพื้นบ้านประจวบคีรีขันธ์ศาสตราจารย์ทวนทอง จุฑาเกตุ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นายประวัติ พิริยศาสน์เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2565 สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด และศาสตราจารย์รัตนา ชื่นภักดีMemorial University of Newfoundland และผู้อำนวยการเครือข่ายวิจัย Too Big To Ignore Global เพื่อร่วมอภิปรายในเชิงลึก และให้ข้อคิดเห็น ข้อมูล ข้อเท็จจริง ในมุมมองและความรู้ที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้เพื่อร่วมกันพัฒนาการประมงพื้นบ้านและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำรายย่อยของไทย ยกระดับสู่ความมั่นคงมั่งคั่ง และยั่งยืน ซึ่งมีรองศาสตราจารย์ ดร.กังวาลย์ จันทรโชติ เป็นผู้ดำเนินการเสวนา
นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับโครงการที่สำคัญของกรมประมงซึ่งเกี่ยวข้องกับการประมงพื้นบ้านและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำรายย่อย พร้อมนำเสนอในรูปแบบสารคดีที่ถ่ายทอดถึงกิจกรรมที่โดดเด่นของการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศไทย ผ่านทางเว็บไซต์https://inter.fisheries.go.th/iyafa และกิจกรรมประชาสัมพันธ์สินค้าประมงพื้นบ้าน จากร้าน Fisherman Shop@Bangkhen ซึ่งเป็นร้านค้าต้นแบบสาขาแรกของกรมประมง ที่สนับสนุนการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายและกระจายสินค้าสัตว์น้ำให้กับชาวประมงพื้นบ้านและผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำรายย่อยอีกด้วย
อธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า กรมประมง เชื่อมั่นและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานในครั้งนี้นอกจากจะทำให้สาธารณชนได้ตระหนักถึงบทบาทและคุณค่าของพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านและเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำรายย่อยต่อการพัฒนาภาคการประมงของประเทศแล้ว จะเป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้พี่น้องชาวประมงพื้นบ้านและเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงมีการเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตสัตว์น้ำให้มีคุณภาพมาตรฐานรองรับต่อความต้องการของผู้บริโภค พร้อมรับมือกับบริบทภายใต้สภาวะสิ่งแวดล้อมเศรษฐกิจและสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรู้เท่าทัน อันจะทำให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ในการประกอบอาชีพอย่างผาสุกในระยะยาวต่อไป