นายศักดินัย นุ่มหนู ปธ.กมธ.เกษตรและสหกรณ์ โพสต์ข้อความหลังทางการจีนปฏิเสธทุเรียนจากไทยปมชุบสาร โดยระบุว่า
ทุเรียนไทย: ผลไม้เศรษฐกิจ 150,000 ล้านบาท กับนานาความเสี่ยงที่ต้องเผชิญ พร้อมกับความท้าทายท่ามกลางการแข่งขัน ในเวทีทุเรียนโลก
ข่าวที่สร้างความกังวลใจ ต่อเกษตรกรชาวสวนทุเรียนของไทยอย่างยิ่ง ในเวลานี้ ก็เป็นเรื่องที่ทางการจีน กำหนดให้ ทุเรียนทุกล็อตจากไทย ที่ส่งออกไปจีน ต้องแนบผลวิเคราะห์ basic Yellow(BY2) คำสั่งนี้มีผลทันทีวันที่ 10 มกราคม 68 ที่ผ่านมา
ส่งผลให้ทุเรียนไทย ที่ส่งไปจีน ผ่านสนามบินหนานหนิง ถูกปฏิเสธการนำเข้า เพราะไม่มีผลLab ตรวจสารBY2แนบไปด้วย และยังมีทุเรียนราว 100 ตู้คอนเทนเนอร์ ยังเข้าจีนไม่ได้
ต่อประเด็นดังกล่าวนี้ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ก็มีความกังวลใจ และห่วงใยต่ออนาคตของเกษตรกรชาวสวนทุเรียนของไทย เป็นอย่างยิ่ง จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล และ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีมาตรการ ดังต่อไปนี้
- ขอให้มีการควบคุม ตรวจสอบ อย่างเข้มงวดจริงจังถึงสารตกค้างในทุเรียนที่ส่งออกไปจีน ในโรงคัดบรรจุ (ล้ง)ทุกแห่ง
- ห้ามโรงคัดบรรจุใช้ “สารห้ามใช้” หรือมี”สารห้ามใช้”ไว้ในการครอบครองอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งดำเนินคดีเอาผิดกับโรงคัดบรรจุที่ฝ่าฝืนทันที
- กำชับการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้จริงจังและตรงไปตรงมา หากพบว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ก็ต้องถูกดำเนินคดีในทันที
- ขอให้ทางการของไทย ต้องเร่งเจรจา ทำความเข้าใจกับทางการจีน ถึงมาตรการที่ฝ่ายไทย กำหนดออกมา เพื่อใช้ในการควบคุมป้องกัน สารตกค้างทุกชนิด และสร้างความร่วมมือกัน ที่สามารถแก้ไขปัญหาอุปสรรค เพื่อประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย
คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์สภาผู้แทนราษฎร จะติดตามสถานการณ์ และการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งจะมีการเชิญหน่วยงานและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มาพูดคุย ในคณะกรรมาธิการฯในเร็วนี้ เพื่อร่วมกำหนดแนวทาง ป้องกันแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และวางแนวทางในระยะยาว เพื่ออนาคตของทุเรียนไทย เกษตรกรไทย และเศรษฐกิจของประเทศไทย
