ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯแจงไม่มีเอี่ยวบริษัทด้านเกษตรที่ถูกร้องเรียน ยันเคยแวะชมกิจการเพียงครั้งเดียว

ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯขี้แจงกรณีมีรูปไปเยี่ยมชมบริษัทด้านเกษตรแห่งหนึ่ง ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและเคยแวะชมกิจการเพียงครั้งเดียว

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการปฏิบัติราชการที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ชี้แจงวันนี้ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์ใดๆกับบริษัทTurtle Farm นอกจากเคยแวะไปชมกิจการของบริษัทดังกล่าวเพียงครั้งเดียว ระหว่างเดินทางไปสนามบินเพื่อกลับกรุงเทพ หลังจากเสร็จภารกิจที่จังหวัดสกลนครเมื่อเดือนมิถุนายนเนื่องจากมีผู้แนะนำว่า เป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการด้านเห็ดแบบครบวงจร

ก่อนหน้านี้สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส รายงานข่าวว่า มีผู้เสียหายจำนวนหนึ่งเข้าไปแจ้งความเรื่องการลงทุนฟาร์มเห็ดแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร แต่กลับไม่ได้รับเงินปันผล และสงสัยว่าอาจเป็นการลงทุนที่ไม่ได้มีอยู่จริง และไปร้องเรียนที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ

ตามข่าวระบุด้วยว่า ผู้เสียหายรายหนึ่งเล่าว่าเห็นโฆษณาในเฟซบุ๊ก แล้วรู้สึกน่าสนใจจึงเดินทางไปดูฟาร์ม พบว่ามีอยู่จริง จึงตัดสินใจลงทุน โดยการโฆษณาเกี่ยวกับการลงทุน จะมี 2 รูปแบบ คือ

1. ผู้ลงทุนแค่ลงเงินฝากเลี้ยงเห็ดโรงเรือน เมื่อขายได้ก็จะนำเงินปันผลมาให้

2. การนำก้อนเชื้อเห็ดมาเพาะเลี้ยงเอง แล้วก็ส่งขายให้ฟาร์ม

ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้น หลังลงเงินไป 7 ล้านบาทในก้อนแรก และยังไปกู้เงินมาเพิ่มอีก 6 ล้านบาทลงทุนไป 1 ปี ได้เงินปันผลมา 2 ล้านบาท กระทั่ง 2 เดือนที่ผ่านมา สังเกตเห็นความผิดปกติ เพราะเจอโปรโมชั่นซื้อ 1 โรงเรือน แถม 1 โรงเรือน รู้สึกว่าโรงเรือนใน จ.สกลนคร อาจจะมีไม่พอ ถ้าหากมีคนลงทุนมากๆ และเงื่อนไขการลงทุน ระบุเอาไว้ว่าวันที่ 30 มิถุนายน จะต้องได้เงินปันผล แต่กลับไม่ได้เงิน ส่วนทางเจ้าของกิจการ อ้างว่า ธนาคารอายัดเงิน ทำให้ไม่มีเงินจ่ายปันผล และอ้างว่าจะจ่ายให้ภายในวันที่26 กรกฎาคม แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้เงิน

ผู้เสียหายอีกราย ระบุว่า เห็นโฆษณาผ่านเฟซบุ๊ก จึงให้เพื่อนไปตรวจสอบฟาร์มว่ามีจริงไหม จะเหมือนแชร์ลูกโซ่หรือเปล่า เมื่อพบว่ามีการทำกิจการอยู่จริง มีผลผลิตจริง จึงกล้าลงทุน ลงไป 3 ครั้ง รวมเป็นเงิน5 แสนบาท ได้เงินปันผลเพียงครั้งเดียว 1.5 แสนบาท จึงมั่นใจว่าได้เงินจริง

ขณะเดียวกันเมื่อตรวจสอบเพจของทางฟาร์มดังกล่าว พบว่า มีคนดังร่วมถ่ายคลิปวิดีโอด้วย และมีที่ปรึกษาของรัฐมนตรีกระทรวงหนึ่งไปเยี่ยมชมฟาร์มด้วย 

อย่างไรก็ตามเพจของฟาร์มดังกล่าว ได้หยุดนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมาตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันไทยพีบีเอส ยังตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ฟาร์มดังกล่าวมีการทำธุรกิจอื่นๆ ด้วย เช่น การเทรดเหรียญคริปโต, การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ, การให้เช่าเครื่องขุดบิตคอยน์, การเปิดฟาร์มเลี้ยงผึ้ง ซึ่งใช้โมเดลกับฟาร์มเห็ด,และโครงการลงทุนในกัญชา 1,600 บาท

ขอบคุณข้อมูล : ไทยพีบีเอส