นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานโครงการแม่ฮ่องสอนโมเดลตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมี ผู้บริหารสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ส่วนจังหวัดให้การต้อนรับ ณ ศูนย์การเรียนรู้สมาคมคนพิการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อเข้าเยี่ยมชมการผลิตถ่านชีวภาพ (Biochar) จากการการนำใบและซังข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มาอัดแท่งเป็นถ่านเชื้อเพลิงสำหรับหุงต้มอาหาร กรองน้ำ ดูดซับกลิ่น และเป็นสารปรับปรุงดินสำหรับทำเกษตรกรรม ซึ่งสามารถสร้างทักษะอาชีพให้กับเกษตรกรและผู้พิการ รวมถึงสามารถจำหน่ายผลผลิตเพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้อีกด้วย
จากนั้น นายอัครา ได้เดินทางต่อไปยังโครงการชลประทานแม่ฮ่องสอน ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อรับฟังการผลการดำเนินโครงการแม่ฮ่องสอนโมเดลเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสู่ความยั่งยืน ปี 2568 อาทิ 1) การพัฒนาที่ดินเพื่อเพิ่มศักยภาพการใช้ประโยชน์สำหรับการปลูกพืช 2) การปรับปรุง ซ่อมแซมผนังกันน้ำ ห้วย ฝาย และอาคารบังคับน้ำ ให้ประชาชนมีใช้อุปโภค-บริโภคอย่างเพียงพอ 3) ส่งเสริมการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรอินทรีย์ (กาแฟ พริก กระเทียม กระเทียมโทน ถั่วลิสงลายเสือ) 4) การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวและการตลาดข้าว การปรับปรุงพันธุ์ข้าว สร้างสายพันธุ์หลัก พันธุ์ขยาย และพันธุ์จำหน่าย 5) การส่งเสริมให้ผลผลิตทางการเกษตรได้การรับรองมาตรฐาน GAP 5) ส่งเสริมการเลี้ยงไก่แม่ฮ่องสอน ไก่ไข่ โคขุน การผลิตปุ๋ยคอก และการแปรรูปผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ 6) การผลิตสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงเพื่อสร้างรายได้ (ปลากดหลวง ปลาพวงหิน ปลากดคังสาละวิน เขียดแลว ปลานิล และปลาแก้มช้ำ) และ7) การส่งเสริมและพัฒนาพื้นที่สูงให้เกิดการพัฒนาในพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ รมช.อัครา ต้องการผลักดันแม่ฮ่องสอนโมเดลให้เห็นผลเป็นรูปธรรม ลดการสาธิตเกษตรกรรมตัวอย่าง และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปส่งเสริมเกษตรกรให้เกิดการลงมือทำสร้างผลลัพธ์อย่างแท้จริง เพื่อให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้เพิ่มอย่างยั่งยืน
ต่อมา รมช.อัครา เดินทางไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรแม่ฮ่องสอน สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อรับฟังปัญหาจากตัวแทนเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภค จึงมอบหมายให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพ อาจใช้ลักษณะเดียวกับโครงการอ่างเก็บน้ำแม่ยะ ต.เกาะตะเภา อ.บ้านตาก จ.ตาก เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีระบบขนส่งน้ำอย่างทั่วถึง และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจนไม่สามารถทำเกษตรกรรมได้ให้สามารถเพาะปลูกได้โดยเร็ว
โอกาสนี้ รมช.เกษตรฯ นำคณะ เดินทางต่อไปยังศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายตามแนวพระราชดำริ (ท่าโป่งแดง) ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อเยี่ยมชมศูนย์วิจัยและพัฒนาเพาะพันธุ์สัตว์เลี้ยงน้ำจืด อาทิ เขียดแลว ปลาพลวงหิน ปลาคังสาละวิน และปลานิล เป็นต้น และเยี่ยมชมโรงแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ (หมู วัว ไก่พันธุ์พื้นเมืองแม่ฮ่องสอน) อีกด้วย