กรมส่งเสริมสหกรณ์ เตรียมผลักดันมาตรการช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบด้านการเกษตรจากเหตุการณ์อุทกภัย ปี 2567 ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานบูรณาการความร่วมมือกันช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรและชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลันในหลายจังหวัด พื้นที่ทำการเกษตร ทรัพย์สิน อุปกรณ์การเกษตรของสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก สำหรับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้มีมาตรการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกสหกรณ์การเกษตร ในพื้นที่ประสบอุทกภัย 27 จังหวัด โดยเสนอโครงการฟื้นฟูเกษตรกรหลังน้ำลด ขออนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 300 ล้านบาท ประกอบด้วย การชดเชยดอกเบี้ยจำนวนรวมทั้งสิ้น 200 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการชดเชยดอกเบี้ยแทนสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี เป็นระยะเวลา 1 ปี ต้นเงินกู้ไม่เกิน 300,000 บาท ส่วนต้นเงินกู้ที่เกินกว่า 300,000 บาท คิดดอกเบี้ยในอัตราปกติ และชดเชยความเสียหายของทรัพย์สินสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวนรวมทั้งสิ้น 100 ล้านบาท รวมทั้งโครงการพักชำระหนี้เงินกู้ให้สมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ต้นเงินกู้คงเหลือไม่เกินรายละ 300,000 บาท ในอัตราชดเชยดอกเบี้ย ร้อยละ 4.5 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี
“นอกจากนี้ กองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) ยังได้สนับสนุนสินเชื่อปลอดดอกเบี้ยให้กับสมาชิกสหกรณ์ วงเงิน 264 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สมาชิกมีทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพหลังประสบอุทกภัยปัจจุบันมีสหกรณ์แจ้งขอรับการสนับสนุนแล้ว 39 สหกรณ์ ใน 14 จังหวัด สมาชิก 4,348 ราย วงเงิน 136.121 ล้านบาท อีกทั้ง สหกรณ์ที่ประสบสาธารณภัยที่กู้เงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ สามารถขอผ่อนผันหรือขยายเวลาการชำระหนี้ได้ ตามระเบียบ กพส. ซึ่งกรมฯ ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดสำรวจความเสียหาย พร้อมเตรียมแผนฟื้นฟูฯ หลังน้ำลดให้สมาชิกสหกรณ์/เกษตรกร ในการฟื้นฟูอาชีพให้กับสมาชิกสหกรณ์ได้มีเงินทุนทำการเกษตรที่สามารถสร้างรายได้ในระยะเวลาอันสั้นต่อไป” อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว