กรุงโดฮา, 3 ตุลาคม 2567 – นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ได้ใช้โอกาสในการเข้าร่วมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue: ACD) ครั้งที่ 3 ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ เพื่อหารือทวิภาคีกับผู้นำระดับสูงจากหลายประเทศ โดยมุ่งเน้นการกระชับความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้หารือกับเชค มุฮัมมัด บิน อับดุลเราะห์มาน บิน ญาสซิม อาล ษานี นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัฐกาตาร์ โดยฝ่ายกาตาร์ได้แสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีไทยในฐานะผู้นำสตรีที่อายุน้อยที่สุดที่เดินทางมาเยือนกาตาร์ และแสดงความเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำ พร้อมทั้งเสนอความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งกาตาร์มองว่าจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมในอนาคตอันใกล้ ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีไทยได้นำเสนอจุดแข็งของไทยในการเป็นแหล่งสำรองอาหาร (Food Stocks) ให้กับกาตาร์ ซึ่งได้รับการตอบรับด้วยดี
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เข้าเฝ้าเชค ตะมีม บิน ฮะมัด อาล ษานี เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ ซึ่งได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์อุทกภัยในประเทศไทย และกล่าวถึงความสัมพันธ์อันดีเยี่ยมระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ นายกรัฐมนตรีไทยได้เสนอความร่วมมือใหม่ๆ ในด้านซอฟต์พาวเวอร์และการพัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงความร่วมมือด้าน AI ระหว่างประเทศขนาดกลาง
นายกรัฐมนตรียังได้เข้าเฝ้าเชค เศาะบาฮ์ อัลคอลิด อัลฮะมัด อัลมุบาร็อก อัศเศาะบาฮ์ มกุฎราชกุมารและรองเจ้าผู้ครองรัฐคูเวต ซึ่งได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและคูเวตที่ดำเนินมา 61 ปี และแสดงความสนใจในการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในไทย รวมถึงความต้องการแรงงานฝีมือจากไทย นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้ไทยเป็นแหล่งสำรองอาหารให้คูเวตเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคงทางอาหาร พร้อมทั้งเชิญชวนนักลงทุนคูเวตมาลงทุนในไทย
ก่อนหน้านั้น นายกรัฐมนตรีได้หารือกับนายมาสูด เพเซชเกียน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน โดยนายกรัฐมนตรีไทยได้ย้ำถึงความพร้อมในการร่วมมือกับอิหร่าน โดยเฉพาะในวาระครบรอบ 70 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศในปี 2568 พร้อมเสนอแนวทางจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองร่วมกันในด้านวัฒนธรรมและกีฬา นอกจากนี้ ยังได้เชิญประธานาธิบดีอิหร่านเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในการนี้ ประธานาธิบดีอิหร่านได้ขอให้ไทยสนับสนุนการสร้างสันติภาพในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะในสถานการณ์กาซาและเลบานอน ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยได้ยืนยันการสนับสนุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความขอบคุณต่อความช่วยเหลือของอิหร่านในการเจรจาปล่อยตัวประกันชาวไทยที่ผ่านมา และขอให้สนับสนุนการเจรจาปล่อยตัวประกันชาวไทยอีก 6 คนที่ยังคงถูกกักตัวอยู่
ต่อมานายกรัฐมนตรีได้หารือกับนายเอมอมาลี เราะห์มาน ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐทาจิกิสถาน ซึ่งได้แสดงความชื่นชมต่อประเทศไทยในด้านการท่องเที่ยว ทัศนียภาพ อาหาร และผู้คน โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญประธานาธิบดีทาจิกิสถานเยือนไทยในเร็ววัน
การหารือทวิภาคีครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือระหว่างไทยกับประเทศพันธมิตรในภูมิภาค โดยเฉพาะในบทบาทของไทยที่จะเป็นประธาน ACD ในปีหน้า ซึ่งนายกรัฐมนตรีแพทองธารได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะกระชับความร่วมมือนี้ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น