“ธรรมนัส” ส่ง “ธนดล” แจ้งความ “เจษฎ์-บุญยอด-หมอวรงค์” หมิ่นประมาท เหตุโจมตีทำตัวไม่เหมาะสม-ทำผิดรัฐธรรมนูญ ม.185

S 8593480

วันที่ 10 ก.ย.67 นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษารักษาการ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำเอกสารหลักฐานเข้าพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีฟ้องร้องนายเจษฎ์ โทณะวณิก ประธานคณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย , นายบุญยอด สุขถิ่นไทย พิธีกร และนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ในข้อหาหมิ่นประมาท ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากกรณีวิจารณ์ออกสื่อว่า ร.อ.ธรรมนัสทำตัวไม่เหมาะสม เสี่ยงแทรกแซงข้าราชการและฝ่ายบริหาร ภายหลังลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมที่ จ.ชัยนาท และ จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2567 เข้าข่ายมาตรา 185 ที่ห้าม สส. และ สว. แทรกแซงการทำงานของฝ่ายบริหาร

S 8593483

นายธนดล กล่าวว่า ในเวลานี้ที่เกิดภัยพิบัติทางน้ำควรร่วมมือร่วมใจกันช่วยเหลือประชาชน แต่การที่มาโจมตีกัน ว่าการกระทำของร.อ.ธรรมนัส “ไม่เหมาะสม” และส่อผิดรัฐธรรมนูญ ตรงจุดนี้เป็นการทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ว่า ร.อ.ธรรมนัสไม่เข้าใจกฎหมาย

S 3121316

ด้านนายธนดลยังบอกอีกว่า การวิพากษ์วิจารณ์นั้นสามารถทำได้ แต่ถ้าหากติชมด้วยความเป็นธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริตก็ไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่การที่มากล่าวหาว่า ร.อ.ธรรมนัส ปฏิบัติเหมาะสมหรือไม่ ตรงนี้ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

S 3121319

นายธนดลยืนยันว่า การที่ ร.อ.ธรรมนัส ลงพื้นที่เป็นการส่งมอบงานระหว่างที่บริหารกระทรวงเกษตรมาเนื่องจากว่า น้ำกำลังจะท่วมบ้านเรือนพี่น้องประชาชน ในขณะนั้นร.อ.ธรรมนัส ยังคงดำรงตำแหน่งก็ได้ไปดูน้ำตั้งแต่แม่น้ำยม จังหวัดสุโขทัยจนกระทั่งน้ำไหลมาที่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งที่ผ่านมาทุกคนทำเพียงแค่โจมตีกันไปมาแต่ไม่มีใครสนใจความเป็นอยู่ของประชาชนที่กำลังจะได้รับความเดือดร้อน

S 8593486

ส่วนจะมีการยอมความกันหรือไม่ นายธนดล ระบุว่า ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายซึ่งตามกฏหมายในเรื่องของการดำเนินคดีด้านหมิ่นประมาทตรงนี้เป็นความผิดส่วนบุคคลและเป็นความผิดที่สามารถยอมความได้ โดยหลังจากนี้จะแจ้งคดีอะไรเพิ่มเติมหรือไม่นั้นก็จะดูรายละเอียดรวมถึงหลักฐานว่ามีการตัดต่อให้เสื่อมเสียชื่อเสียงหรือไม่ซึ่งหากพบว่ามีการตัดต่อก็จะเข้าความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

S 8593484
S 8593485