เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายอำนาจ โสรถาวร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเกษตรอำเภอเมืองสุพรรณบุรี กับพวก ตรวจรับเมล็ดพันธุ์ข้าว กข.41 และตรวจรับเครื่องสีข้าวจำนวน 11 เครื่อง โดยมิชอบ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 , 162 (4) , 83 , 91 พ.ร.ป.ป.ป.ช. 2561 มาตรา 172 (พ.ร.ป.ป.ป.ช. 2542 มาตรา 123/1) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2564
โดยคดีนี้ ปรากฏชื่อ นายพงษ์ศักดิ์ นกเขาเทศ เป็นจำเลยเพียงรายเดียว
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มีคำพิพากษาว่า นายพงษ์ศักดิ์ นกเขาเทศ จำเลยมีความผิด รวม 4 กระทง จำคุกจำเลยกระทงละ 1 ปี และปรับกระทงละ 20,000 บาท
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชนแ์ก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกกระทงละ 6 เดือน และปรับกระทงละ 10,000 บาท
รวมจำคุกจำเลยมีกำหนด 24 เดือน และปรับ 40,000 บาท
โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี คุมประพฤติระหว่างรอการลงโทษมีกำหนด 1 ปี ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ รวม 4 ครั้ง
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2567 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
